หน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป(EU) กำลังสอบสวนว่า บริการบางอย่างของ OKX อาจถูกใช้ในการฟอกเงินจากการแฮ็กไบร์บิท(Bybit) มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 6 ทางหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปได้หารือเกี่ยวกับประเด็นนี้ในที่ประชุมของคณะกรรมาธิการด้านการเงินดิจิทัลของหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์แห่งยุโรป(ESMA)
บริการที่เป็นประเด็นถกเถียงคือ ‘แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi) และบริการกระเป๋าเงิน’ ของ OKX แม้ว่า OKX จะได้รับ ‘ใบอนุญาตภายใต้กฎหมายตลาดคริปโต(MiCA)’ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ยังคงมีข้อโต้แย้งว่าสิ่งนี้อยู่ภายใต้ข้อบังคับของ MiCA หรือไม่ เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของไบร์บิท เปิดเผยว่า จากจำนวนเงินคริปโตที่ถูกแฮ็กไป 1.5 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 54,000 ล้านบาท) มีราว 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 40,233 อีเธอเรียม(ETH) ถูกฟอกผ่าน Web3 Proxy ของ OKX และเงินบางส่วนไม่สามารถติดตามได้อีกต่อไป
OKX ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยไฮเดอร์ ราฟิก(Haider Rafique) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลกของ OKX ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “ข้อกล่าวหาว่าเราเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากการแฮ็กนั้นไม่มีมูลความจริง”
เหตุการณ์แฮ็กไบร์บิทนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 10 วัน และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในการแฮ็กคริปโตที่ใหญ่ที่สุด นักวิเคราะห์คริปโตเชื่อว่า การโจมตีครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของ ‘กลุ่มแฮ็กเกอร์ลาซารัส(Lazarus Group) ของเกาหลีเหนือ’ เบน โจว ได้กล่าวว่าเขาประกาศ ‘สงครามเต็มรูปแบบ’ กับกลุ่มนี้ โดยปัจจุบันเงิน 3% ของที่ถูกขโมยถูกแช่แข็งไว้ได้ ขณะที่อีก 20% ได้ถูกถอนออกไปในช่องทางที่ไม่สามารถติดตามได้
ขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปยังคงพิจารณาว่าบริการ Web3 ของ OKX ควรอยู่ภายใต้ข้อบังคับของ MiCA หรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ OKX ในยุโรป
ความคิดเห็น 0