บิตคอยน์(BTC) กลับมาฟื้นตัวในรอบ 5 วัน โดยเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.2 ล้านเยน (ประมาณ 11.7 ล้านบาท) ในช่วงหนึ่ง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยสำคัญคือการที่วุฒิสมาชิกซินเธีย ลูมิส จากรัฐไวโอมิง (พรรครีพับลิกัน) ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อผลักดัน ‘ยุทธศาสตร์สำรองบิตคอยน์’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ให้เป็นรูปธรรม โดยลูมิสระบุว่าเป้าหมายของร่างกฎหมายฉบับนี้คือให้รัฐบาลสหรัฐถือครองบิตคอยน์จำนวน 1 ล้าน BTC
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เผชิญกับแรงขายจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายคริปโตของรัฐบาลทรัมป์ แต่การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวได้ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้ออีกครั้ง
ในตลาดออปชัน ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด โดยสัญญาคอลออปชันที่ระดับราคา 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.65 ล้านบาท) มีปริมาณคงค้างเพิ่มขึ้น ขณะที่ระดับ 130,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.75 ล้านบาท) มีแรงเทขายทำกำไร นอกจากนี้ ตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ของ CME ยังพบว่าปริมาณสัญญาคงค้าง (Open Interest) ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันอาจจะชะลอการเข้าตลาด
อย่างไรก็ตาม แผนยุทธศาสตร์บิตคอยน์ของทรัมป์ยังต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งประเด็นที่ต้องจับตาคือว่าสภาคองเกรสและรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐจะอนุมัติงบประมาณสำหรับซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางตลาดในอนาคต
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงเดือนมีนาคม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันที่ 12 มีนาคม, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในวันที่ 14 มีนาคม และยอดค้าปลีกที่มีกำหนดประกาศในวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดคริปโตในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0