บิตคอยน์(BTC) ยังคงครองตลาดคริปโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่สัดส่วนการครองตลาดพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สวนทางกับแนวโน้มของอัลต์คอยน์ที่ประสบภาวะชะลอตัว
เมื่อวันที่ 12 ตามรายงานของบริษัทให้บริการด้านการเงินคริปโต ‘เมทริกซ์พอร์ต(Matrixport)’ ระบุว่า บิตคอยน์มีส่วนแบ่งตลาดพุ่งสูงถึง 61.2% เพิ่มขึ้นจากระดับ 54% เมื่อเดือนธันวาคม 2023 รายงานดังกล่าววิเคราะห์ว่าการที่ ‘อัลต์คอยน์’ ไม่สามารถรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้และกลับตัวลดลงเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้บิตคอยน์มีอิทธิพลมากขึ้น
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออัลต์คอยน์คือ ‘สภาพเศรษฐกิจมหภาค’ เดือนพฤศจิกายน 2023 หลังการเลือกตั้งสหรัฐ ราคาสินทรัพย์คริปโตฟื้นตัวในระยะสั้น แต่หลังจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนธันวาคมออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจยึดแนวทางนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป ทำให้นักลงทุนโยกย้ายเงินทุนเข้าสู่ ‘บิตคอยน์’ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่เสถียรกว่า
ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาทิศทางของ ‘อัตราดอกเบี้ย’ ล่าสุด เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนมกราคม ซึ่งกดดันตลาดหุ้นและคริปโต ส่งผลให้บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 20% หลังคำแถลงการณ์ของเฟด โดยเมื่อวันที่ 12 ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ 82,750 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 109,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนธันวาคม
เนื่องจากอัลต์คอยน์มักได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคมากกว่าบิตคอยน์ เมทริกซ์พอร์ตเผยว่า "นักลงทุนจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนพอร์ตจากอัลต์คอยน์ไปสู่บิตคอยน์" แม้ว่าบิตคอยน์เองจะเผชิญแรงกดดันปรับฐาน แต่เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวมก็ยังคงแข็งแกร่งกว่า
แนวโน้มระยะยาวของบิตคอยน์ขึ้นอยู่กับ ‘นโยบายการเงินของเฟด’ ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในอนาคต รายงานล่าสุดระบุว่า ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐ’ เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.8% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัว
ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สของ CME Group ชี้ให้เห็นว่า ตลาดมีแนวโน้มสูงที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจช่วยหนุนตลาดคริปโตในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนบิตคอยน์อาจเป็นสัญญาณของตลาดกระทิงในระยะยาว แต่สภาวะความผันผวนยังคงสูง นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน
ความคิดเห็น 0