OKX ขยายบริการอนุพันธ์ในยุโรป หลังได้รับใบอนุญาต MiFID II
เมื่อวันที่ 12 เอรัลด์ กุส(Erald Gush) ซีอีโอของ OKX ยุโรป ประกาศว่า OKX ได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมาย MiFID II ซึ่งช่วยให้สามารถให้บริการซื้อขายอนุพันธ์แก่ ‘นักลงทุนสถาบัน’ ในสหภาพยุโรป(EU) ได้
การได้รับใบอนุญาต MiFID II ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงสองเดือนหลังจากที่ OKX ได้รับ ‘การอนุมัติเบื้องต้น’ จาก MiCA ซึ่งเป็นกรอบกำกับดูแลตลาดคริปโตในยุโรป ด้วย MiCA OKX สามารถให้บริการคริปโตใน ‘28 ประเทศ’ ภายในเขตเศรษฐกิจยุโรป(EEA) และการได้รับใบอนุญาต MiFID II เพิ่มเติมนี้จะช่วยให้ OKX สามารถขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของตนให้ครอบคลุมมากขึ้น
แม้ว่า MiFID II และ MiCA จะถือเป็นกฎระเบียบที่เสริมซึ่งกันและกัน แต่ขอบเขตการใช้งานแตกต่างกัน โดย MiFID II ครอบคลุม ‘ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกประเภท’ และกำหนดให้แพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์คริปโตต้องได้รับการจดทะเบียน ในขณะที่ MiCA ใช้สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตแต่ไม่นับเป็น ‘ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน’
OKX ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซเชลส์ ‘เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ โดยอ้างอิงจาก CoinMarketCap ในวันที่ 12 มีนาคม ปริมาณการซื้อขายสปอตของ OKX อยู่ที่ประมาณ 3.7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.4 ล้านล้านวอน)
ความต้องการอนุพันธ์คริปโตจากนักลงทุนสถาบันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานจาก CCData เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วระบุว่า ‘ตลาดอนุพันธ์คริปโตส่วนกลาง’ มีมูลค่าถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 89.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายงานของ EY เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ก็ระบุว่า การเติบโตของ ‘การเงินแบบกระจายศูนย์’ (DeFi) จะช่วยผลักดันตลาดอนุพันธ์คริปโตให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น
OKX ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียวที่ขยับขยายเข้าสู่ตลาดยุโรปในลักษณะนี้ ‘คราเคน(Kraken)’ ก็เพิ่งได้รับใบอนุญาต MiFID II โดยให้เหตุผลว่ายุโรปเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับการซื้อขายอนุพันธ์คริปโต
ในขณะเดียวกัน CME Group รายงานว่ายุโรปเป็น ‘ตลาดคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก’ โดยคิดเป็น 18% ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลก การได้รับใบอนุญาต MiFID II ของ OKX นี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ ‘เร่งการไหลเข้าของนักลงทุนสถาบัน’ ในตลาดยุโรป
ความคิดเห็น 0