‘เชนโรลแบ็ค’ กลับมาเป็นประเด็นร้อนในวงการบล็อกเชนอีกครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถกเถียงกันมากที่สุดเกี่ยวกับ ‘ความไม่เปลี่ยนแปลง’ ของเครือข่ายบล็อกเชน แม้ว่าตามหลักการแล้ว บล็อกเชนจะมอบความโปร่งใสและความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ในบางสถานการณ์ อาจมีการใช้เชนโรลแบ็คเพื่อแก้ไขข้อมูลในอดีต ซึ่งขัดแย้งกับหลักการกระจายศูนย์และสร้างความขัดแย้งในชุมชน
เชนโรลแบ็คหมายถึง การย้อนข้อมูลของเครือข่ายกลับไปยังสถานะก่อนหน้า ซึ่งมักเกิดขึ้นในกรณีเช่น ความล้มเหลวของฉันทามติ ข้อผิดพลาดทางเทคนิค การโจมตี 51% หรือเหตุการณ์การแฮ็กครั้งใหญ่ กรณีที่โดดเด่นที่สุดคือเหตุการณ์แฮ็ก DAO ของอีเธอเรียม(ETH) ในปี 2016 ซึ่งส่งผลให้มีการฮาร์ดฟอร์คเพื่อนำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย ผลที่ตามมาคือเกิดการแยกตัวของเครือข่ายเป็นสองสาย ได้แก่ อีเธอเรียม(ETH) และอีเธอเรียมคลาสสิก(ETC)
กระบวนการเชนโรลแบ็คมีความซับซ้อนทางเทคนิค โดยเริ่มจากการกำหนดช่วงบล็อกที่ต้องย้อนกลับ จากนั้นจะลบข้อมูลธุรกรรมหลังจากจุดที่เลือก และทำการประสานโหนดให้สอดคล้องกัน การดำเนินการดังกล่าวต้องได้รับฉันทามติจากชุมชนและต้องคำนึงถึงผลกระทบทางเทคนิคและปรัชญาของบล็อกเชน
ผลกระทบของเชนโรลแบ็คต่อผู้ใช้และเครือข่ายมีหลากหลาย หากดำเนินการจริง ธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ จะถูกยกเลิก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ใช้บางรายสูญเสียเงินโดยไม่คาดคิด นอกจากนี้ ยังเป็นการสั่นคลอนหลักการ ‘ความไม่เปลี่ยนแปลง’ ของบล็อกเชน และอาจลดทอนความไว้วางใจในเครือข่าย ในกรณีที่เชนโรลแบ็คเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความน่าเชื่อถือของบล็อกเชนอาจถูกตั้งคำถาม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ที่กระดานเทรดคริปโตในดูไบอย่าง ‘ไบบิต’ ซึ่งสูญเสียเงินกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในรูปของอีเธอเรียม(ETH) การโจมตีครั้งนี้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮ็กเกอร์ ‘ลาซารัส’ จากเกาหลีเหนือ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชุมชนอีเธอเรียมถกเถียงกันอย่างหนักเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้เชนโรลแบ็ค
เชนโรลแบ็คถือเป็นมาตรการสุดโต่งของเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งในเชิงเทคนิคและหลักการพื้นฐานของระบบ ขณะที่บางฝ่ายมองว่าควรคง ‘ความไม่เปลี่ยนแปลง’ เป็นหลักสำคัญของบล็อกเชน แต่ก็มีบางกลุ่มที่เชื่อว่า ควรมีมาตรการพิเศษในการปกป้องผู้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน แนวทางในการตัดสินใจเกี่ยวกับเชนโรลแบ็คจึงเป็นสิ่งที่จะชี้วัดอนาคตของบล็อกเชนว่าสามารถรักษาความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือได้อย่างยั่งยืนหรือไม่
ความคิดเห็น 0