Web3 เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’(UX) ที่ซับซ้อนกลับกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำไปใช้ในวงกว้าง ล่าสุด ในพอดแคสต์ ‘Hashing It Out’ ของ Cointelegraph มีการถกเถียงถึงปัญหาด้าน UX ของ Web3 พร้อมนำเสนอแนวทางแก้ไขที่สร้างสรรค์
ในตอนนี้ มีผู้ร่วมก่อตั้งของ Ponder One อย่าง โม เอล-ชีบิบ(Moe El-Shibib) และ เซลิม เซซกิน(Selim Sezgin) มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยพวกเขาระบุว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนยังคงซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘กระบวนการเริ่มต้นใช้งาน’(Onboarding), การเข้าถึง ‘แพลตฟอร์มการเงินไร้ศูนย์กลาง’(DeFi) และการจัดการสินทรัพย์บน ‘บล็อกเชนหลายเครือข่าย’(Multi-chain) ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ
เซซกินกล่าวว่า "แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ UX ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ยังขาดหายไป" พร้อมเน้นว่าต้องออกแบบ Web3 ให้ ‘ใช้งานง่ายขึ้น’ หนึ่งในแนวทางที่เป็นไปได้คือการนำ AI มาใช้ เช่น AI สามารถช่วยใน ‘การแลกเปลี่ยนเหรียญอัตโนมัติ’(Auto Swap), ‘การเชื่อมเครือข่าย’(Bridging) และ ‘การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์’ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องมีความรู้เชิงเทคนิคแต่ยังสามารถใช้บล็อกเชนได้อย่างราบรื่น
อีกประเด็นสำคัญคือการพัฒนา ‘การทำงานข้ามเครือข่าย’(Cross-chain) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบัน ผู้ใช้ต้องเข้าใจโครงสร้างของแต่ละบล็อกเชนและทำการเปลี่ยนเครือข่ายด้วยตนเอง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึง ‘ธรรมาภิบาลไร้ศูนย์กลาง’(Decentralized Governance) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Web3 แม้ว่าระบบจะดำเนินไปโดยอิงกับ ‘การตัดสินใจของชุมชน’(Community-driven Governance) แต่หากขั้นตอนมีความซับซ้อนเกินไป อาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง
Web3 กำลังเคลื่อนตัวไปสู่ยุคใหม่ที่มีการผสานกับ ‘สินทรัพย์ที่มีอยู่จริง’(RWA) และ ‘ปัญญาประดิษฐ์’(AI) ซึ่งเป็นโอกาสที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการยอมรับในวงกว้าง การทำให้บล็อกเชนใช้งานได้อย่าง ‘ง่ายและเป็นธรรมชาติ’ ถือเป็นสิ่งจำเป็น ข้อสรุปจากพอดแคสต์นี้คือ UX ที่ดีขึ้นจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ Web3 กลายเป็นกระแสหลัก และสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบล็อกเชนได้อย่างสะดวกสบาย
ความคิดเห็น 0