แนวโน้มการลงทุนในเกม Web3 กำลังเปลี่ยนแปลงไป เดิมทีโครงการที่อ้างตัวเป็น ‘Axie Killers’ สามารถดึงดูดเงินทุนจำนวนมากด้วยเพียงแค่คำโฆษณา แต่ปัจจุบัน หากไม่สามารถพิสูจน์ความยั่งยืนได้ การระดมทุนก็กลายเป็นเรื่องยากขึ้น
เจฟฟรีย์ เซอริน ผู้ร่วมก่อตั้งของสกายมาวิส(Sky Mavis) กล่าวในบทสัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า "ตลาดเกม Web3 กำลังเข้าสู่สภาวะการลงทุนที่ระมัดระวังมากขึ้น เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมบล็อกเชนโดยรวม" โดยเขาเน้นว่า "โครงการที่อ้างว่าจะแข่งขันกับ Axie Infinity เพียงอย่างเดียวจะไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกต่อไป" อย่างไรก็ตาม เซอรินระบุว่า "เงินทุนยังไม่ได้หายไปทั้งหมด" และ "โครงการที่มีระบบนิเวศแข็งแกร่งยังสามารถระดมทุนได้สำเร็จ" ตัวอย่างสำคัญคือ ‘Fableborne’ เกมมือถือ Web3 ซึ่งสามารถระดมทุนได้เกินเป้าถึง 16,000% แม้จะอยู่ในช่วงตลาดซบเซา
ตลาดเกม Web3 ที่เติบโตขึ้นส่งผลให้การเพิ่มองค์ประกอบ NFT เข้าไปในเกมไม่เพียงพอที่จะดึงดูดนักลงทุนอีกต่อไป โจช์ เกียร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Coliseum แพลตฟอร์ม eSports และเกมทัวร์นาเมนต์ กล่าวว่า "ความร้อนแรงของการเก็งกำไรในเกมบล็อกเชนได้ลดลงแล้ว ยุคที่โครงการสามารถระดมเงินทุนได้หลายล้านดอลลาร์เพียงแค่ประกาศใช้ NFT ได้จบลง" นอกจากนี้ เขากล่าวว่า "นักลงทุนปัจจุบันให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความสามารถในการดึงดูดผู้เล่น โดยชื่นชอบโครงการที่นำเทคโนโลยี Web3 มาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้แทนที่จะใช้เพียงเพื่อการตลาด"
ผลกระทบนี้ยังส่งผลต่อบริษัทเกม Web3 หลายแห่ง ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สกายมาวิสได้ปรับลดพนักงานลง 21% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ ขณะที่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ อิลลูเวียม(Illuvium) ตัดสินใจปลดพนักงาน 40% เพื่อปรับความเร็วการพัฒนา
วินเนย์ บุทธกี ซีอีโอของซิกมาแคปิตอล(Sigma Capital) อธิบายว่า "การพัฒนาเกมใช้เวลานานกว่าโครงการบล็อกเชนทั่วไป ทำให้ระยะเวลาการคืนทุนยาวนานขึ้น" และเสริมว่า "ในอดีต เพียงแค่มีวิดีโอโปรโมตและโทเคโนมิกส์ที่น่าสนใจก็เพียงพอ แต่ปัจจุบัน นักลงทุนให้ความสำคัญกับคุณภาพของเกมและกลยุทธ์การเปิดตัวมากขึ้น"
ท้ายที่สุด นักลงทุนในอุตสาหกรรมเกม Web3 กำลังเปลี่ยนโฟกัสจากการตลาดและกระแส มาให้ความสำคัญกับ ‘ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม’ และ ‘โมเดลเศรษฐกิจที่ยั่งยืน’ ในการประเมินโครงการ
ความคิดเห็น 0