บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาเหนือ 80,000 ดอลลาร์ หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ตลาดยังคงให้ความสนใจไปที่โอกาสที่ ริปเปิล(XRP) อาจถูกจัดประเภทเป็น ‘สินค้าโภคภัณฑ์’ อีกครั้ง
บิตคอยน์เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการเคลื่อนไหวที่ระดับ 86,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับตัวลงอย่างรวดเร็วในวันจันทร์แตะ 80,000 ดอลลาร์ จากนั้นมีแรงซื้อเข้าหนุนให้ฟื้นตัวถึง 84,000 ดอลลาร์ แต่ในวันอังคารราคากลับร่วงลงอีกครั้งไปแตะระดับต่ำสุดที่ 77,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตลาดมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการประกาศดัชนี CPI เมื่อวันพุธ ทำให้ราคาปรับกลับขึ้นไปที่ 84,000 ดอลลาร์ แต่การฟื้นตัวไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้ ในช่วงวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ราคากลับปรับตัวลดลงมาที่ 80,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ล่าสุด วันที่ 14 บิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 83,000 ดอลลาร์ แม้ว่าจะมีการฟื้นตัว แต่เมื่อดูในกรอบสัปดาห์ บิตคอยน์ยังคงลดลงประมาณ 6% ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันในตลาด
ตลาดอัลท์คอยน์ยังคงอยู่ในโหมดขาลงเช่นกัน โดย อีเธอเรียม(ETH) ลดลง 13%, ดอจคอยน์(DOGE) ร่วง 16%, คาร์ดาโน(ADA) ลดลง 17% ส่วน เชนลิงก์(LINK) และ ไลท์คอยน์(LTC) ต่างก็ปรับตัวลง 16% และ 13% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ตลาดอัลท์คอยน์อ่อนตัว บิตคอยน์กลับมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นแตะ 58.9% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
ขณะเดียวกัน ประเด็นที่นักลงทุนจับตาคือความเป็นไปได้ที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) จะพิจารณาจัดประเภทของ XRP เป็น ‘สินค้าโภคภัณฑ์’ รายงานระบุว่า SEC อาจมีการทบทวนจุดยืนเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของ XRP ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง อาจส่งผลให้ตลาดและภาพรวมของสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับผลกระทบในวงกว้าง
ด้านเศรษฐกิจ นโยบายของ ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังเป็นที่ถกเถียงในตลาด โดยกลยุทธ์ ‘ความเจ็บปวดระยะสั้น ผลลัพธ์ระยะยาว’ ของเขาถูกมองว่าอาจมีผลเชิงบวกต่อสินทรัพย์ดิจิทัล ในช่วงแรกตลาดอาจได้รับแรงกดดันเนื่องจากนโยบายลดอัตราเงินเฟ้อ แต่ในระยะยาว ความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจช่วยให้สินทรัพย์ดิจิทัลกลับมาได้รับความสนใจอย่างมากขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง นักลงทุนจับตามองการลงทุนในภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ล่าสุดบริษัท MGX จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ได้ทำข้อตกลงลงทุนใน ไบแนนซ์ มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.92 ล้านล้านวอน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงการระดมทุนที่ใหญ่ที่สุด ขณะเดียวกัน อีเธอเรียม ที่เพิ่งปรับตัวลงแตะระดับราคาสำคัญ อาจมีโอกาสเกิดการฟื้นตัว ทำให้สถาบันการเงินบางแห่งเริ่มเข้าซื้อเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ อัตราส่วนมูลค่าตลาดต่อมูลค่าตามราคาทุน (MVRV) ของบิตคอยน์ ได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดของปี ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอาจเป็นสัญญาณซื้อ นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญยังคงจับตาดูปัจจัยทางเศรษฐกิจและกฎระเบียบ ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญต่อทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
ความคิดเห็น 0