ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) และบริษัทไมโครสตราทีจี(MicroStrategy) กำลังวางแผนออกหุ้นบุริมสิทธิ์จำนวน 5 ล้านหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มเติม
ตามแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของไมโครสตราทีจี รายได้จากการออกหุ้นครั้งนี้จะถูกใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและการลงทุนในบิตคอยน์ อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและปัจจัยอื่นๆ
หุ้นบุริมสิทธิ์ที่ออกใหม่เหล่านี้จะให้เงินปันผลสะสมในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี โดยจะเริ่มจ่ายเป็นรายไตรมาสตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นอกจากนี้ หากหุ้นที่ออกจำหน่ายมีจำนวนคงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ไมโครสตราทีจีจะมีตัวเลือกในการซื้อคืนหุ้นทั้งหมดเป็นเงินสด
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากไมโครสตราทีจีเพิ่งดำเนินการซื้อบิตคอยน์ในปริมาณที่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม บริษัทได้ซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 130 BTC เป็นมูลค่า 10.7 ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยประมาณ 82,981 ดอลลาร์ต่อ BTC การซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อบิตคอยน์จำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่ไมโครสตราทีจีเริ่มลงทุนในบิตคอยน์เมื่อเดือนสิงหาคม 2020
จนถึงขณะนี้ ไมโครสตราทีจีและบริษัทในเครือถือครองบิตคอยน์จำนวน 499,226 BTC คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 33.1 พันล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยราว 66,360 ดอลลาร์ต่อ BTC หากบริษัทสามารถระดมทุนเพิ่มเติมจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ์และซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 774 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 64 ล้านดอลลาร์ การถือครองของบริษัทจะทะลุ 500,000 BTC ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 2.38 ของอุปทานบิตคอยน์ทั้งหมด
ไมโครสตราทีจียังคงเป็นบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในโลก แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีความผันผวน แต่การลงทุนในบิตคอยน์ทำให้บริษัทมีกำไรที่ยังไม่รับรู้มากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11.68 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินบิตคอยน์ที่ถือครองโดยไมโครสตราทีจีอยู่ที่ประมาณ 41.1 พันล้านดอลลาร์
ความคิดเห็น 0