Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โอครี แคปิตอลใช้บล็อกเชนโพลีแมช โทเค็นไนซ์อสังหาฯ 51.9 ล้านดอลลาร์ในแคนาดา

Mon, 24 Mar 2025, 20:10 pm UTC

โอครี แคปิตอลใช้บล็อกเชนโพลีแมช โทเค็นไนซ์อสังหาฯ 51.9 ล้านดอลลาร์ในแคนาดา / Tokenpost

บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของแคนาดา ‘โอครี แคปิตอล’ (Ocree Capital) ได้ใช้บล็อกเชนของโพลีแมช(Polymesh) ในการ ‘โทเค็นไนซ์’ อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มูลค่ากว่า 51.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,890 ล้านบาท)

โครงการโทเค็นไนซ์ดังกล่าวครอบคลุมการพัฒนาอาคารที่พักอาศัยแบบหลายครอบครัว ‘คลาส A’ จำนวน 156 ยูนิต ในเมืองวินนิเพก รัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา โดยนักลงทุนสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มโอครี ซึ่งการลงทุนรอบแรกจะมีสัดส่วนประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 145 ล้านบาท)

เท็ด เดวิส(Ted Davis) ซีอีโอของโอครี แคปิตอล อธิบายว่า “นักลงทุนไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้กู้ แต่เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโดยตรง” พร้อมเสริมว่า “การลงทุนนี้จะอยู่ในรูปแบบของการถือหุ้นจำกัดความรับผิดในทรัพย์สินดังกล่าว”

การแปลงสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์เป็นโทเค็นดำเนินการทั้งหมดบนบล็อกเชนของโพลีแมช ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อ ‘โทเค็นไนซ์’ สินทรัพย์จริง (RWA) ก่อนหน้านี้ บล็อกเชนดังกล่าวเคยถูกใช้ในการโทเค็นไนซ์โบสถ์ในรัฐโคโลราโด มูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 91 ล้านบาท)

เดวิส ซีอีโอของโอครี กล่าวเพิ่มเติมว่า “แพลตฟอร์มของเราสร้างขึ้นบนบล็อกเชนของโพลีแมชที่ได้รับการอนุญาตจากภาครัฐ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันก็มอบโอกาสการเข้าถึงอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมให้กับนักลงทุน”

โอครี แคปิตอล เป็น ‘Exempt Market Dealer’ หรือ EMD ที่ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของรัฐออนแทรีโอ (OSC) และสามารถดำเนินธุรกิจได้ทั่วแคนาดา ยกเว้นรัฐควิเบก ซึ่งสถานะนี้ช่วยให้บริษัทสามารถนำเสนอสินทรัพย์ประเภทหุ้นอสังหาริมทรัพย์ให้กับนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนที่ผ่านคุณสมบัติได้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทการเงินรายใหญ่ รวมถึง JPมอร์แกน, UBS, ซิตี้แบงก์, HSBC และแบล็คร็อก ต่างหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านโทเค็นไนซ์สินทรัพย์ ขณะที่ในแคนาดาเองก็มีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม RWA ระดับสถาบันเช่น Atlas One, Taurus และ Polymath

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมเชื่อว่าการโทเค็นไนซ์สินทรัพย์ไม่เพียงช่วยเพิ่มสภาพคล่อง แต่ยังช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรม และลดระยะเวลาในการดำเนินการด้านสัญญาอีกด้วย แมทธิว เบอร์กอยน์(Matthew Burgoyne) ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย Osler แสดงความคิดเห็นว่า “ต่างจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ตัวกลางหลายราย เครือข่ายที่ใช้บล็อกเชนกระจายศูนย์สามารถดำเนินธุรกรรมได้อย่างโปร่งใสและเกือบจะทันที”

ปัจจุบัน มูลค่าสินทรัพย์จริงบนบล็อกเชน (ไม่รวมสเตเบิลคอยน์) อยู่ที่ประมาณ 31.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.14 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 94% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ตลาดโทเค็นไนซ์หลักทรัพย์อาจมีมูลค่าสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1