ตามรายงานล่าสุดของ Klein Labs ระบุว่า ‘คิโลเอ็กซ์(KiloEx)’ กำลังได้รับความสนใจในฐานะ ‘แพลตฟอร์มซื้อขายฟิวเจอร์สถาวรแบบออนเชน (Perp DEX) รุ่นใหม่’ โดยเน้นเรื่อง ‘ประสิทธิภาพของเงินทุน’ และ ‘การบริหารความเสี่ยง’ ผ่านการรองรับหลายเชนและโมเดลสภาพคล่องแบบไฮบริด ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ ‘พลิกโฉมตลาดอนุพันธ์ออนเชน’
ปัจจุบัน คิโลเอ็กซ์ ให้บริการบนเครือข่าย BNB, opBNB และ Manta โดยหลังจากได้รับรางวัลจากโปรแกรม Binance MVB มีผู้ใช้งานสะสมกว่า ‘100,000 ราย’ ทั้งยังครองสัดส่วน TVL กว่า ‘60% บน opBNB’ มีผู้ใช้ที่เทรดเป็นประจำต่อวันกว่า ‘10,000 ราย’ และมียอดซื้อขายสูงสุดต่อวันถึง ‘320 ล้านดอลลาร์’ ความได้เปรียบเหนือ ‘กระดานเทรดรวมศูนย์ (CEX)’ ของ Perp DEX อย่างคิโลเอ็กซ์ ได้แก่ การ ‘ควบคุมเงินด้วยตนเอง’ ‘ความโปร่งใสที่สูงขึ้น’ และ ‘กระบวนการถอนที่รวดเร็วขึ้น’ ทำให้แพลตฟอร์มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รายงานวิจัยของ Klein Labs ยังชี้ว่า คิโลเอ็กซ์สามารถ ‘ลดปัญหาค่าธรรมเนียมก๊าซ’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ ‘ระบบ Meta Transaction แบบ ERC-2771’ สร้างประสบการณ์ซื้อขายแบบ ‘ไร้ค่าธรรมเนียมก๊าซ’ ทำให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการซื้อขายได้รวดเร็วในระดับ CEX นอกจากนี้ คิโลเอ็กซ์ยังมีฟีเจอร์ ‘1CT (One-Click Trading)’ ลดขั้นตอนการอนุมัติธุรกรรม และปรับปรุงกลไกสมาร์ตคอนแทร็กต์จนทำให้ความเร็วในการซื้อขาย ‘เหนือกว่า Perp DEX อื่น ๆ ถึง 90%’
ในด้านโมเดลธุรกิจ คิโลเอ็กซ์เลือกใช้ ‘โครงสร้างพูลแบบคู่ (Vault + Buffer)’ เพื่อลดความเสี่ยงของสภาพคล่อง ซึ่งแตกต่างจาก GMX และ dYdX ที่ใช้พูลเดียวกัน ทำให้เครือข่ายของคิโลเอ็กซ์สามารถรองรับความผันผวนของตลาดได้ดีกว่า นอกจากนี้ ‘พูลหลัก (Base Pool)’ ยังให้ ‘ผลตอบแทนรายปีสูงกว่าแพลตฟอร์ม DeFi ทั่วไป’ โดย ‘22% บน opBNB’ และ ‘29% บน Taiko’
การขยายไปยังเครือข่ายหลายเชนก็เป็นกลยุทธ์สำคัญของคิโลเอ็กซ์ โดยปัจจุบันรองรับ BNB Chain, Manta, Taiko และ Base นอกจากนี้ยังมีแผนรองรับ Solana และบล็อกเชนตระกูล Move ใช้ ‘สะพานครอสเชน (Cross-Chain Bridge)’ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ ‘สับเปลี่ยนเครือข่าย’ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายและกระแสสภาพคล่อง
ด้วยอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว คิโลเอ็กซ์ทำ ‘ยอดซื้อขายสะสมมากกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์’ โดยมีปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันระหว่าง ‘100-200 ล้านดอลลาร์’ รวมผู้ใช้งานแล้วมากกว่า ‘800,000 ราย’ และกลุ่มชุมชน Telegram แตะ ‘1 ล้านคน’ TVL สูงสุดเคยแตะ ‘50 ล้านดอลลาร์’ และปัจจุบันยืนอยู่ที่ ‘ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์’ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่โดดเด่นในกลุ่ม Perp DEX
อีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คิโลเอ็กซ์เติบโตคือ ‘โปรแกรมรีเบตและพันธมิตร’ ปัจจุบันมี ‘1,700 โหนดพันธมิตรระดับ 1’ ที่ช่วยขยายฐานผู้ใช้ รวมถึงใช้ ‘KILO Token’ เป็นรางวัลในระบบนิเวศ โดยผู้ใช้สามารถ ‘Staking KILO’ เพื่อรับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ส่งผลให้เกิด ‘วงจรเศรษฐกิจแบบลดอุปทาน เพิ่มมูลค่าโทเคน’
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง dYdX, GMX และ Hyperliquid คิโลเอ็กซ์มีข้อได้เปรียบหลายด้าน dYdX ใช้โมเดลผสมระหว่าง ‘ออนเชน’ และ ‘ออฟเชน’ แต่ยังขาดความโปร่งใส GMX ใช้ ‘พูลแยก’ ทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องกระจัดกระจาย ส่วน Hyperliquid ใช้ ‘Layer 1 เฉพาะตัว’ แต่ขาดความสามารถในการทำงานร่วมกับหลายเชน ในขณะที่คิโลเอ็กซ์ใช้ ‘AMM แบบออนเชน’ เพื่อลดโอกาสการปั่นราคา และใช้ ‘ระบบ Vault แบบไฮบริด’ เพื่อรวบรวมสภาพคล่อง
โดยสรุป คิโลเอ็กซ์ตั้งเป้าเป็น ‘CEX ด้านประสบการณ์ + DEX ด้านความปลอดภัยและการควบคุมตนเอง’ และกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดอนุพันธ์ออนเชน หากสามารถเดินหน้าขยายเครือข่ายและพันธมิตรได้ต่อเนื่อง คิโลเอ็กซ์น่าจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นในตลาด Perp DEX 🚀
ความคิดเห็น 0