บล็อกร็อก(BlackRock) บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนในบิตคอยน์(BTC) ในรูปแบบกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน(ETP) ในยุโรป ขยายตลาดคริปโตเคอร์เรนซีให้กว้างขึ้น
กองทุน iShares บิตคอยน์ ETP ของบล็อกร็อกเริ่มทำการซื้อขายเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ในตลาดหลักทรัพย์ Xetra ของเยอรมนี, ยูโรเน็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ และยูโรเน็กซ์ ปารีส ของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดในยุโรป หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว iShares บิตคอยน์ ETF ในสหรัฐเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปัจจุบันกองทุนบิตคอยน์ ETF ของบล็อกร็อกในสหรัฐมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 50.7 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 2.73% ของอุปทานบิตคอยน์ทั้งหมด
สตีเวน อุนด์เค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และรายได้ของ Algoz บริษัทด้านการลงทุนในคริปโต มองว่าการเปิดตัว ETP ใหม่นี้อาจไม่สามารถสร้างผลกระทบในยุโรปได้เท่ากับตลาดสหรัฐ โดยให้ความเห็นว่า "ยุโรปมีผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตผ่านผู้จัดการสินทรัพย์ที่ได้รับการกำกับดูแลมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งนักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงบิตคอยน์ได้โดยตรงง่ายกว่าสหรัฐ" อย่างไรก็ตาม เขามองว่าการเปิดตลาดครั้งนี้ช่วยเพิ่มโอกาสให้สำนักงานบริหารความมั่งคั่งแบบดั้งเดิมในยุโรปสามารถนำบิตคอยน์ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ มาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนได้
บล็อกร็อกนำเสนอค่าธรรมเนียมพิเศษที่ 0.15% จนถึงสิ้นปี 2025 เพื่อดึงดูดนักลงทุนและแข่งขันในตลาด ซึ่งต่ำกว่าค่าธรรมเนียม 0.25% ของกองทุน CoinShares Physical Bitcoin ETP ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้กองทุนของบล็อกร็อกมีความได้เปรียบด้านต้นทุนมากขึ้น
มานูเอลลา สเปรานเดโอ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ iShares ในยุโรปและตะวันออกกลาง ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “การเปิดตัวครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของอุตสาหกรรม” โดยชี้ให้เห็นว่า ไม่เพียงแค่นักลงทุนรายย่อยที่มีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ แต่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ก็เริ่มเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างจริงจังมากขึ้น
การขยายการลงทุนในคริปโตของบล็อกร็อกยังสะท้อนถึงความมั่นใจในกรอบกฎหมาย MiCA ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีความชัดเจนมากกว่าสหรัฐ อาเจย์ ดิงกรา นักวิเคราะห์จาก Unizen แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ กล่าวว่า "นโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์จนถึงไบเดน และอาจเปลี่ยนอีกครั้งหากทรัมป์กลับมา" ขณะที่ยุโรปดำเนินแนวทางที่ค่อยเป็นค่อยไปและชัดเจนมากกว่า
จากรายงานผลประกอบการล่าสุดของบล็อกร็อก บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเฉลี่ย 11.55 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และนอกเหนือจากบิตคอยน์ ETF บริษัทยังก้าวหน้าในตลาดคริปโตด้วยการเปิดตัวกองทุนอีเธอเรียม(ETH) ETF เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนสถาบันอีกด้วย
ความคิดเห็น 0