นูแบงค์(Nubank) ธนาคารดิจิทัลรายใหญ่ในละตินอเมริกา ได้ขยายการรองรับคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มเติม โดยเพิ่ม คาร์ดาโน(ADA), เนียร์โปรโตคอล(NEAR), คอสมอส(ATOM) และ อัลกอแรนด์(ALGO) เมื่อวันที่ 25 ตามรายงาน การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ลูกค้าชาวบราซิลกว่า 100 ล้านรายของนูแบงค์ สามารถเข้าถึงคริปโตที่หลากหลายมากขึ้น โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของทั้ง 4 เหรียญ ณ เวลานี้อยู่ที่ประมาณ 34.6 พันล้านดอลลาร์
นูแบงค์กำลังขยายธุรกิจด้านคริปโตอย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในไตรมาสแรกของปี 2021 รายได้ของบริษัทอยู่ที่เพียง 245 ล้านดอลลาร์ แต่ภายในสิ้นปี 2024 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านดอลลาร์ โดยการเพิ่มเหรียญใหม่ล่าสุดทำให้ขณะนี้นูแบงค์รองรับคริปโตทั้งหมด 20 สกุล ซึ่งเดิมทีมี บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), โซลานา(SOL), USDC และ ริปเปิล(XRP) อยู่แล้ว
บริษัทยังได้รับการสนับสนุนจาก เบิร์กเชียร์ แฮททาเวย์(Berkshire Hathaway) ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเข้าลงทุนครั้งแรก 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และเพิ่มการลงทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของของ เบิร์กเชียร์ เพิ่มขึ้นจาก 0.1% ในปี 2022 เป็น 0.4% ในปี 2024
นูแบงค์เริ่มต้นลงทุนในคริปโตในปี 2022 ด้วยการกัน 1% ของสินทรัพย์เป็นบิตคอยน์ และเปิดตัวโครงการโทเค็นสะสมแต้มบนเครือข่ายของ โพลิกอน(MATIC) แต่ในปีนี้ บริษัทได้ตัดสินใจยุติโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บราซิลยังคงเป็นตลาดคริปโตที่แข็งแกร่ง โดยมี GDP 5.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และตลาดคริปโตของประเทศก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Stablecoin คิดเป็น 90% ของปริมาณการซื้อขายคริปโตทั้งหมด
ในเดือนมกราคม ไบแนนซ์ ได้รับใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในบราซิลเป็นครั้งแรก ขณะที่ เรโวลูท(Revolut) ฟินเทคจากอังกฤษ ก็เข้ามาตีตลาดเช่นกัน ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยบราซิลเป็นประเทศที่มีมูลค่าการซื้อขายคริปโตสูงสุดในละตินอเมริกาที่ 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และสภานิติบัญญัติกำลังพิจารณากฎหมายให้สามารถจ่ายเงินเดือนได้ด้วยบิตคอยน์
การขยายตัวของนูแบงค์ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดคริปโตบราซิลให้คึกคักขึ้น ในขณะที่สถาบันการเงินรายใหญ่ทั่วโลกต่างเร่งแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโตนี้
ความคิดเห็น 0