คอยน์เบส เวนเจอร์ส(Coinbase Ventures) แสดงความเชื่อมั่นใน ‘สเตเบิลคอยน์’ และ ‘ดีไฟ(DeFi) รุ่นใหม่’ แม้ตลาดจะมีความผันผวน โดยเตรียมเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ฮูลี เทซวานี(Hoolie Tejwani) หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของคอยน์เบส เวนเจอร์ส ระบุว่า “เทคโนโลยีคริปโตไม่เพียงเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจโดยรวมด้วย” พร้อมเสริมว่า “มีโอกาสมากมายในกลุ่มสเตเบิลคอยน์ แอปพลิเคชันออนเชน และการเชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์(AI)”
คอยน์เบส เวนเจอร์ส เคยลงทุนในโปรเจกต์บล็อกเชนที่มีศักยภาพ เช่น อาร์บิทรัม(Arbitrum), ดูน อะนาไลติกส์(Dune), ไอเกนเลเยอร์(EigenLayer), อีเธอร์สแกน(Etherscan), โอเพนซี(OpenSea), ออปติมิซึม(Optimism) และ ยูนิสวอป(Uniswap) และยังคงสนับสนุนบริษัทที่ใช้บล็อกเชนและเว็บ3(Web3) เพื่อส่งเสริม ‘เสรีภาพทางเศรษฐกิจ’
เทซวานียังแสดงท่าที ‘มองบวก’ ต่อสเตเบิลคอยน์ โดยชี้ว่า “การสนับสนุนจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ และประธานาธิบดีทรัมป์ สะท้อนแนวโน้มที่เอื้อต่อคริปโต” เขาเสริมว่า “คณะกรรมการธนาคารวุฒิสภากำลังผลักดันร่างกฎหมายกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญของอุตสาหกรรมคริปโต” ขณะที่ร่างกฎหมาย GENIUS Act กำลังรอการลงมติขั้นสุดท้าย โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค คาดว่ามีโอกาสผ่านภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน แนวคิดของสเตเบิลคอยน์กำลังได้รับ ‘การยอมรับ’ มากขึ้นจากฝ่ายการเมือง โร คันนา(Ro Khanna) สมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรคเดโมแครต ระบุว่าสมาชิกพรรคจำนวนมาก ‘เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสเตเบิลคอยน์’ และเห็นว่ามันจะช่วยรักษาสถานะเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก
นอกจากสเตเบิลคอยน์และดีไฟ เทซวานียังกล่าวว่าบริษัทยังให้ความสนใจกับ ‘โซเชียล ออนเชน’, ‘เกมบล็อกเชน’ และ ‘เศรษฐกิจครีเอเตอร์’ รวมถึงเล็งเห็นว่า ‘การรวมคริปโตและ AI’ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันนวัตกรรมในเทคโนโลยีบล็อกเชน
ด้านแฮชคีย์ แคปิตอล(HashKey Capital) บริษัทเงินทุนคริปโตชั้นนำ ก็แสดงมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งเน้นการลงทุนใน ‘การโทเคไนซ์สินทรัพย์จริง(RWA)’ และ ‘โครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์(DePINs)’
เทซวานีทิ้งท้ายว่า “ปี 2025 จะเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ของสตาร์ทอัปคริปโตและเงินทุนจาก VC” พร้อมคาดการณ์ว่า “กฎระเบียบที่ชัดเจน การเข้ามาของนักลงทุนสถาบัน และการใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้วงการเติบโตมากขึ้น”
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ‘การลงทุนของ VC ในภาคคริปโตเพิ่มขึ้น’ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสู่สตาร์ทอัปคริปโตและบล็อกเชนสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 40,000 ล้านบาท)
จากแนวโน้มดังกล่าว ความสนใจในสเตเบิลคอยน์ ดีไฟรุ่นใหม่ และแอปพลิเคชันคริปโตเชิงพาณิชย์ คาดว่าจะยังคง ‘ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง’ ในอนาคต
ความคิดเห็น 0