เทเธอร์(USDT) บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังสเตเบิลคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าซื้อหุ้น 30.4% ของบริษัทสื่ออิตาลี 'Be Water' ด้วยเงินลงทุน 10.8 ล้านดอลลาร์ การลงทุนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามสนับสนุนสื่ออิสระและขยายขอบเขตของเนื้อหาดิจิทัลในระดับสากล
เมื่อวันที่ 27 เทเธอร์ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเข้าซื้อหุ้นของ Be Water ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงโรม โดยเปาโล อาร์โดยิโน(Paolo Ardoino) ซีอีโอของเทเธอร์กล่าวว่า "เราให้ความสำคัญกับเสรีภาพของสื่อ และเชื่อว่าการสนับสนุนสื่อที่ใช้เทคโนโลยีเป็นรากฐานนั้นสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเรา"
Be Water เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตและเผยแพร่ภาพยนตร์ สารคดี และซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคม กุยโด มาเรีย เบรรา(Guido Maria Brera) ประธานของบริษัทกล่าวว่า "การร่วมมือกับเทเธอร์จะช่วยให้เราสามารถขยายขีดความสามารถในการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาทั้งในอิตาลีและทั่วโลก" โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเทเธอร์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย พอดแคสต์ และกิจกรรมสด
นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวยังทำให้บอร์ดบริหารของ Be Water มีการเปลี่ยนแปลง โดยเปาโล อาร์โดยิโน และคลอเดีย ลาโกริโอ(Claudia Lagorio) ซีโอโอของเทเธอร์ ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการบริหาร ซึ่งบริษัทวางแผนที่จะใช้เงินทุนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเนื้อหา พร้อมกับขยายการดำเนินงานด้านข่าวเชิงสืบสวนของแพลตฟอร์มพอดแคสต์ 'Chora Media' และเครือข่ายข่าวโซเชียล 'Will Media'
ในช่วงปีนี้ เทเธอร์เริ่มขยายการลงทุนไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม นอกเหนือจากการดำเนินงานด้านสเตเบิลคอยน์ โดยในครึ่งแรกของปี 2024 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,000 ล้านดอลลาร์ และมีการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มากถึง 113,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงินขององค์กร
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เทเธอร์ยังเข้าซื้อหุ้นของสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสในเซเรียอา และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อบริษัทเกษตรกรรมในอเมริกาใต้ 'Adecoagro' นอกจากนี้ยังมีการลงทุน 775 ล้านดอลลาร์ในแพลตฟอร์มวิดีโอ 'Rumble' ซึ่งล่าสุดเปิดตัวกระเป๋าเงินที่รองรับการชำระเงินด้วย USDT เพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม
แนวทางการลงทุนของเทเธอร์สะท้อนถึงความพยายามขยับขยายไปสู่ภาคธุรกิจที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างบทบาทของบริษัทในการสร้างอนาคตทางการเงินและสื่อดิจิทัลในระดับโลก
ความคิดเห็น 0