ราคา *อีเธอเรียม(ETH)* ร่วงลงอย่างรุนแรงจากระดับสูงสุดในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยลดลงกว่า 55% จากราว 4,000 ดอลลาร์ เหลือต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ แม้อยู่ท่ามกลางการซบเซาของตลาดคริปโตโดยรวม แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจในขณะนี้คือ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบนเครือข่ายอีเธอเรียมที่ร่วงต่ำสุดในรอบ 4 ปี ท่ามกลางมุมมองที่หลากหลาย ทั้งการมองว่าเป็น ‘สัญญาณลบ’ จากการใช้งานเครือข่ายที่ลดลง และมุมกลับที่เห็นว่าค่าธรรมเนียมที่ถูกลงอาจกลายเป็น ‘ตัวกระตุ้น’ ความต้องการใหม่
จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชน *ซานติเมนต์(Santiment)* จำนวนที่อยู่ผู้ใช้งานรายวันของอีเธอเรียมลดฮวบจาก 717,000 รายเมื่อต้นปี เหลือเพียง 461,000 รายในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าการใช้งานเครือข่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นสาเหตุหลักของค่าธรรมเนียมที่ถูกลง ประกอบกับแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนระยะยาว ทำให้การฟื้นตัวของราคายังล่าช้า ดัชนี ‘Realized Cap HODL Wave’ เองก็ร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 เป็นสัญญาณว่านักลงทุนในระยะยาวเริ่มทำกำไรออกจากตลาด
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าธรรมเนียมและการใช้งาน คือการเติบโตของโซลูชันเลเยอร์ 2 อย่าง *อาร์บิทรัม(Arbitrum)*, *เบส(Base)* และ *ออปติมิซึม(Optimism)* ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งย้ายออกจากเมนเน็ตของอีเธอเรียม ส่งผลให้ความแออัดลดลงและค่าธรรมเนียมถูกลง แม้จะเป็นผลดีในระยะสั้นต่อผู้ใช้งาน แต่ก็อาจคุกคามต่ออิทธิพลของอีเธอเรียมในภาพรวมของตลาด *ความคิดเห็น* ว่าเครือข่ายหลักอาจเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันที่ดุเดือดในอนาคต
ด้านเทคนิค ขณะนี้ราคา *ETH* ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยไม่สามารถผ่านระดับแนวต้านสำคัญที่ 2,000 ดอลลาร์ได้ และกำลังลากตัวอยู่แถวบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ ดัชนี RSI ที่ระดับ 37 บ่งชี้ว่าการปรับฐานอย่างหนักอาจสิ้นสุดลงชั่วคราว ขณะที่ดัชนีสโตแคสติกกลับชี้ถึงภาวะ ‘ซื้อมากเกินไป’ อันอาจนำไปสู่การพักฐานอีกระลอกจากระดับปัจจุบัน ณ วันที่ 1 ราคาของอีเธอเรียมอยู่ที่ประมาณ 1,852 ดอลลาร์ ปรับขึ้น 2.8% ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ยังคงลดลงราว 12% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
นักวิเคราะห์มองว่ากุญแจสำคัญของการฟื้นตัวคือ การทะลุแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์และเปลี่ยนให้เป็นแนวรับที่มั่นคง แม้ ‘ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ’ จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ แต่อีเธอเรียมยังต้องเผชิญภารกิจสำคัญคือการฟื้นตัวของตัวชี้วัดการใช้งานเครือข่าย และการสร้างความต้องการใหม่ *ความคิดเห็น* จากหลายฝ่ายชี้ว่า การฟื้นตัวของอีเธอเรียมจะขึ้นอยู่กับพัฒนาการด้านโครงสร้างในระยะกลางถึงยาว มากกว่าการดีดตัวระยะสั้นในตลาด
ความคิดเห็น 0