Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วงแรงหลังจีนตอบโต้สหรัฐฯ ด้านภาษี ผู้เชี่ยวชาญเตือนความเสี่ยงยังไม่จบ

Sat, 05 Apr 2025, 10:40 am UTC

บิตคอยน์(BTC) ร่วงแรงหลังจีนตอบโต้สหรัฐฯ ด้านภาษี ผู้เชี่ยวชาญเตือนความเสี่ยงยังไม่จบ / Tokenpost

บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับจังหวะการปรับฐานอีกครั้ง หลังตลาดการเงินโลกผันผวนอย่างหนัก โดยเฉพาะจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ที่จีนประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการ *ตอบโต้* อย่างชัดเจน ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรง ราคาบิตคอยน์ร่วงลงราว 70,000 วอนก่อนจะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยจากแรงหนุนของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางภาวะภาพรวมที่ยังคง *เป็นลบ*

การวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ความผันผวนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับนโยบายภาษีเชิงรุกของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วย *กระพือ* ความตื่นตระหนกด้านเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนเริ่มหันหลังให้กับสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งดัชนีหลักและสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงต่างแสดงแนวโน้มขาลง สำหรับตลาดคริปโต แม้ว่าจะเกิดภาวะการซื้อคืนสถานะชอร์ตในตลาดอนุพันธ์ แต่ในตลาดสปอตกลับถูกกดดันด้วยแรงขายต่อเนื่อง ทำให้ราคาปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ ‘ความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์’ ซึ่งบ่งชี้ว่าบิตคอยน์ยังคงมี *ความสัมพันธ์เชิงบวก* กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ S&P500 และ Nasdaq100 ขณะที่ราคาทองคำที่พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ กลับแสดง ‘ความสัมพันธ์เชิงลบ’ กับบิตคอยน์อย่างชัดเจน สถานการณ์นี้ย้ำภาพลักษณ์ของบิตคอยน์ว่าเป็น *สินทรัพย์เสี่ยงสูง* มากกว่าจะเป็นแหล่งพักเงินปลอดภัย นอกจากนี้ การที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หดตัวลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต

อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์ยังมีอีกหนึ่งจุดแข็ง นั่นคือการเป็น ‘เงินตราไร้สัญชาติ’ และมีโครงสร้างแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเปรียบเทียบได้ว่าแข็งแกร่งกว่าดอลลาร์ในบางบริบท โดยเฉพาะเมื่อมองผ่านมุมมองการเมืองของสหรัฐฯ ที่หันไปสู่แนวทางโดดเดี่ยวมากขึ้น ความคิดที่มองว่าบิตคอยน์เป็น ‘เครื่องป้องกันความเสี่ยง’ เริ่มเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดย *ความคิดเห็น* จากอาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทเม็กซ์(BitMEX) ชี้ว่ามาตรการภาษีชุดล่าสุดของทรัมป์อาจกลายเป็น *ปัจจัยผลักดันระยะยาว* สำหรับบิตคอยน์

ในเวลาเดียวกัน ตลาดยังจับตาความเคลื่อนไหวของบริษัทจดทะเบียนที่ถือครองบิตคอยน์ไว้ในพอร์ต หลังพบว่าราคาเฉลี่ยของการซื้อบิตคอยน์ของบริษัทเหล่านี้ต่ำกว่าราคาในตลาดปัจจุบัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการเทขายเพื่อล็อกกำไร หากบริษัทเหล่านี้เริ่มเทขายจริง ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาบิตคอยน์ในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาต่อไป ได้แก่การเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 10 เมษายน รวมถึงรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นในวันที่ 11 ทั้งหมดนี้เป็นดัชนี *ชี้ทิศทาง* ที่จะมีผลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยและสภาพคล่องในระบบ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้ว่าแนวโน้มราคาบิตคอยน์จะไปทางไหน

นักลงทุนในตลาดยังคงจับตาความเสี่ยงในภาพรวมอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งให้ความสนใจว่าบิตคอยน์จะสามารถ ‘ยกระดับสถานะ’ เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงระดับโลกได้หรือไม่ ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปีนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1