บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ราว 74,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 10.8 ล้านบาท) เพิ่มความวิตกว่าอาจมีแรงขายต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้ เมื่อวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) หลังประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันแผนภาษีนำเข้าที่เข้มงวด ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกถูกรุมขายทั้งหุ้นและคริปโต มูลค่าตลาดรวมทั่วโลกสูญไปกว่า 1,387 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 36 ล้านล้านบาท
ความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย เริ่มสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนยิ่งขึ้น นักลงทุนต่างจับตาว่าราคาบิตคอยน์จะดำดิ่งลงไปถึงระดับใด ขณะที่ในเชิงเทคนิค บิตคอยน์กำลังทดสอบแนวรับสำคัญที่ค่าดัชนีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอ็กซ์โพเนนเชียล 50 สัปดาห์ (EMA) ซึ่งเคยเป็นตัวชี้วัดระหว่างตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงในอดีต
ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์กราฟอย่าง เท็ด ฟิลโลว์ส(Ted Pillows) และนักวิเคราะห์อื่นๆ พบว่า หากบิตคอยน์ไม่สามารถยืนเหนือค่า EMA ได้ เส้นทางราคาที่เป็นไปได้ถัดไปคือบริเวณ 69,000-70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 10.1-12.2 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเดิมในปี 2021
ระดับราคา 67,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.78 ล้านบาท) ก็ถูกจับตามองเช่นกัน เนื่องจากเป็นต้นทุนเฉลี่ยในการซื้อของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ซีอีโอจากไมโครสตราเทจี ซึ่งอาจเป็นแนวรับหลักอีกจุด ตามข้อมูลพบว่าราคาบริเวณนี้มีบิตคอยน์ถึง 175,000 เหรียญที่ถูกซื้อสะสมไว้ ขณะที่ราว 41,000 เหรียญถูกซื้อในช่วงราคา 71,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 10.45 ล้านบาท) บ่งชี้ว่าเป็นแนวรับถัดไปหากราคาร่วงลงอีก
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่าง Glassnode ระบุว่า ราคาซื้อเฉลี่ยของผู้ถือบิตคอยน์ระยะสั้นอยู่ที่ 89,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13 ล้านบาท) ขณะที่แถบความเบี่ยงเบนมาตรฐานต่ำสุดอยู่ที่ราว 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่มักเกิดภาวะ ‘ความเจ็บปวด’ จากแรงขายของนักลงทุนรายย่อย แต่ในทางกลับกันก็มักเป็นจุดที่นักลงทุนระยะยาวทยอยเข้าซื้อเช่นกัน ‘ความคิดเห็น’ โซนนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ประวัติศาสตร์ยังชี้ว่า หากบิตคอยน์หลุดแนวรับ EMA 50 สัปดาห์อย่างชัดเจน ก็มักเข้าสู่ตลาดขาลงต่อเนื่อง และอาจมีโอกาสร่วงสู่แนวรับถัดไปที่ค่า EMA 200 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 7.3 ล้านบาท)
นโยบายทางเศรษฐกิจที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมป์ในด้านการค้ากำลังส่งแรงสะเทือนไปยังตลาดคริปโต สัญญาณขยายภาษีในอนาคตอาจเพิ่มความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ และกดดันทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตอย่างรุนแรง แนวโน้มของนโยบายที่จะตามมาจากทรัมป์อาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางราคาบิตคอยน์ในระยะกลางถึงยาว
ความคิดเห็น 0