Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

กลยุทธ์ 'ไม่มีวันขายบิตคอยน์(BTC)' ของเซย์เลอร์สะเทือน หลังเอกสาร SEC เผยความเป็นไปได้ในการขาย

กลยุทธ์ 'ไม่มีวันขายบิตคอยน์(BTC)' ของเซย์เลอร์สะเทือน หลังเอกสาร SEC เผยความเป็นไปได้ในการขาย / Tokenpost

กลยุทธ์ ‘ไม่มีวันขายบิตคอยน์’ ของไมเคิล เซย์เลอร์ ถูกตั้งคำถามอีกครั้ง หลังจากมีเอกสารทางการยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันที่ 7 เปิดเผยว่า บริษัทสแตรเทจี (ชื่อเดิม ไมโครสแตรเทจี) ที่เขาเป็นผู้นำ อาจ ‘จำเป็นต้องขาย’ บิตคอยน์(BTC) หากเผชิญกับสถานการณ์ตลาดที่เลวร้ายหรือการจัดหาเงินทุนที่ไม่เอื้ออำนวย

รายงานแบบฟอร์ม 8-K ที่ยื่นต่อ SEC ระบุชัดเจนว่า หากราคาบิตคอยน์ไม่สามารถรักษาไว้ได้ หรือหากบริษัทเข้าถึงเงินทุนภายนอกได้ยาก สแตรเทจี ‘อาจขายบิตคอยน์บางส่วนหรือทั้งหมดแม้ต้องยอมขาดทุน’ ซึ่งถือเป็นการสวนทางกับถ้อยแถลงที่เซย์เลอร์กล่าวมาโดยตลอดว่าเขาจะถือบิตคอยน์ไว้ตลอดไป ความเปลี่ยนแปลงในเอกสารดังกล่าวจึงสร้างความตกตะลึงให้กับนักลงทุนจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม บริษัทย้ำว่านี่เป็นเพียงคำเตือนเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฏหมายตาม *แนวปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูล* เท่านั้น มิได้หมายความว่ามีแผนจะขายบิตคอยน์ในทันที *ความคิดเห็น* บางส่วนมองว่านี่เป็นเพียง ‘ข้อกำหนดมาตรฐาน’ ที่มีมาในเอกสารก่อนหน้าเช่นกัน

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุดังกล่าวกลายเป็นบททดสอบต่อแนวทาง ‘ยึดถือบิตคอยน์ระยะยาว’ ที่เซย์เลอร์ยืนยันมายาวนาน เขามักกล่าวว่า “บิตคอยน์คือทองคำดิจิทัล และเราจะไม่ขายมัน” พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบบริหารของบริษัทฯ โดยการนำเงินสำรองมาแปลงเป็น BTC แทนสินทรัพย์แบบเดิม รวมถึงเคยกล่าวไว้ว่าเขาตั้งใจบริหารบริษัทในฐานะ ‘บิตคอยน์บริษัท’ มากกว่าบริษัทเทคโนโลยี

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม สแตรเทจียังได้เข้าซื้อบิตคอยน์อีก 22,048 BTC ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทถือครองรวมแล้วกว่า 582,185 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 46.5 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท โดยเงินทุนสำหรับธุรกรรมครั้งนี้มาจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ มูลค่ากว่า 9,200 พันล้านวอน

ปัจจัยที่เร่งกระแสความวิตกคือความ ‘ผันผวนของตลาด’ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น บิตคอยน์ร่วงจากระดับสูง 82,650 ดอลลาร์ เหลือเพียง 74,700 ดอลลาร์ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แม้ว่าราคาจะฟื้นตัวในเวลาต่อมา แต่ก็สะท้อนถึงความตึงเครียดในภาพรวมของตลาด และส่งผลต่อความเสี่ยงโดยตรงกับบริษัทที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากเช่นสแตรเทจี

เมื่อกลยุทธ์ของเซย์เลอร์ถูกเชื่อมโยงกับคำเตือนทางการเงินในเอกสารของ SEC *ความคิดเห็น* จึงเริ่มแตกเป็นสองฝั่ง บางส่วนระบุว่าควรระมัดระวังต่อการตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะข้อความแบบนี้มีมาแต่ก่อน ส่วนอีกกลุ่มมองว่า ‘ถึงทุกยุทธศาสตร์จะมั่นคงแค่ไหน ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงแรงกดดันของตลาดในช่วงที่ความผันผวนรุนแรง’ ได้

ขณะนี้ บริษัทสแตรเทจียังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะขายหรือซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมหรือไม่ และตลาดก็กำลังจับตาว่า เซย์เลอร์จะยังสามารถรักษาท่าที ‘มั่นใจตลอดเวลา’ ไว้ได้อีกนานเพียงใด ท่ามกลางแรงกดดันจากราคาบิตคอยน์และภาระการชำระหนี้ของบริษัท คำมั่นสัญญาเดิมที่ว่า ‘ไม่มีวันขาย’ จะยังคงยืนหยัดได้หรือไม่ ยังต้องติดตามต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1