คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) อนุมัติให้มีการซื้อขาย ‘ออปชัน’ สำหรับอีเธอเรียม(ETH) ETF ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูใหม่ให้กับนักลงทุนในตลาดคริปโต โดย ETF ที่ได้รับการอนุมัตินั้นเป็นของบริษัทหลักอย่าง แบล็คร็อก iShares Ethereum Trust, บิตไวส์ Ethereum ETF, และเกรย์สเกล Ethereum Trust รวมถึง Ethereum Mini Trust
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) SEC ได้อนุมัติคำขอจากตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก และ NYSE American ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ให้สามารถดำเนินการเสนอขาย ‘ออปชัน’ สำหรับอีเธอเรียม ETF ได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถทำกลยุทธ์การลงทุนกับ ETH ได้ในลักษณะเดียวกับที่เคยใช้กับออปชันของบิตคอยน์(BTC) ETF ที่ใช้งานอยู่แล้ว
การอนุมัติในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มทั้งเครื่องมือและความยืดหยุ่นในการลงทุน ขณะที่สภาพคล่องและเสถียรภาพของตลาดคริปโตทั่วโลกก็อาจได้รับผลบวกด้วยเช่นกัน นักลงทุนไม่จำเป็นต้องถือ ETH โดยตรงอีกต่อไปแต่สามารถใช้ ETF เป็น ‘ทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยง’ หรือแสวงหาผลตอบแทนในเชิงกลยุทธ์ได้ นักวิเคราะห์ ETF จากบลูมเบิร์ก เจมส์ เซย์พาร์ต ระบุว่า การเดินหน้าอนุมัตินี้เป็นสิ่งที่คาดหมายไว้แล้ว ขณะที่ประธาน ETF Store อย่าง เนต เกราซี มองว่าเราน่าจะได้เห็นสินค้าทางการเงินแบบใหม่มากขึ้น เช่น ETF แบบคัฟเวอร์คอล หรือ ETF ที่มีการป้องกันความเสี่ยงแบบปรับได้
ตลาดอีเธอเรียมมีปฏิกิริยาในทันที หลัง ETH เคยร่วงถึงระดับประมาณ 1,400 ดอลลาร์ แต่หลังการประกาศก็พุ่งกลับขึ้นมาที่ระดับ 1,687 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนลงเล็กน้อย และปัจจุบันยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,550 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง และซื้อขายอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ชี้ว่าหากสามารถทะลุแนวต้าน 1,650–1,680 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง ก็อาจเห็น ‘แรงขาขึ้นรอบใหม่’
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการเพิ่มฟีเจอร์ ‘สเตกกิ้ง’ เข้าไปใน ETF ก็เริ่มได้รับความสนใจ โดยผู้ออก ETF หลายรายกำลังพิจารณาโครงสร้างที่จะรองรับรายได้จากการสเตก ETH เพื่อเพิ่ม ‘แหล่งรายได้เพิ่มเติม’ ให้กับผู้ถือ ETF โดยเจมส์ เซย์พาร์ต ชี้ว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจดำเนินต่อในช่วงเดือนพฤษภาคม, สิงหาคม และอาจยืดเยื้อไปจนถึงเส้นตายสุดท้ายในเดือนตุลาคม
โดยสรุป การอนุมัติออปชันของ SEC ครั้งนี้ เปลี่ยน ETF ของอีเธอเรียมให้กลายเป็นเครื่องมือที่มีความ ‘กลยุทธ์และยืดหยุ่น’ มากยิ่งขึ้น และในอนาคตหากมีการเพิ่มฟีเจอร์สเตกกิ้งเข้าไปด้วย ก็จะสามารถเชื่อมโยงผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย เพิ่มเสน่ห์ให้กับนักลงทุนกลุ่มใหม่ได้อย่างแน่นอน ขณะที่ความเคลื่อนไหวถัดไปของ SEC กำลังกลายเป็นจุดสนใจในวงการคริปโตทั่วโลก
ความคิดเห็น 0