ข่าวคริปโตประจำสัปดาห์นี้ได้รับความสนใจจากผู้ติดตามทั่วโลก โดยมีประเด็นร้อน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของผู้ก่อตั้งบิตคอยน์(BTC) อย่าง ‘ซาโตชิ นากาโมโตะ’, รายงานวิเคราะห์การลงทุนในริปเปิล(XRP) ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และความเห็นของอาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) เกี่ยวกับผลกระทบของภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
เมื่อวันที่ 7 ทนายความด้านคริปโตชื่อดัง เจมส์ เมอร์ฟี ได้ยื่นฟ้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ โดยอาศัยกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (FOIA) เพื่อร้องขอให้เปิดเผยเอกสารระบุตัวตนของซาโตชิ นากาโมโตะ ซึ่งเมอร์ฟีเชื่อว่าทางการสหรัฐฯอาจมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งบิตคอยน์อย่างเป็นทางการ
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้เผยแพร่รายงานวิเคราะห์ราคาของริปเปิล โดยคาดการณ์ว่า XRP มีโอกาสพุ่งขึ้นมากกว่า 500% และอาจแตะระดับ 12.5 ดอลลาร์ภายในปี 2028 ชี้ว่าปัจจัยพื้นฐานและการนำไปใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนแนวโน้มราคาที่แข็งแกร่งในระยะกลางถึงยาว
ในวันเดียวกัน อาเธอร์ เฮย์ส ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ สินทรัพย์ดิจิทัลอาจกลับมาได้ประโยชน์อีกครั้ง โดยกล่าวว่า การตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยทางการจีน อาจทำให้เกิดการลดค่าของเงินหยวน ซึ่งจะทำให้บิตคอยน์ดูน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ด้านบริษัทลงทุนคริปโตรายใหญ่อย่างเกรย์สเกล ได้เผยผลวิเคราะห์ล่าสุดที่สอดคล้องความเห็นของเฮย์ส โดยประเมินว่าสงครามภาษีอาจสนับสนุนให้ผู้คนหันมาใช้บิตคอยน์มากขึ้นในช่วงกลางถึงระยะยาว จากความไม่มั่นคงในเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจาก ‘ทรัมป์’ ประกาศเมื่อวันที่ 9 ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจากจีน จนส่งผลให้ภาษีรวมพุ่งสูงถึง 104% ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ความไม่แน่นอนเหล่านี้ส่งผลกดดันบิตคอยน์ให้ร่วงลง ขณะเดียวกันตลาดหุ้นก็เผชิญความผันผวนอย่างหนักและลดแรงดึงดูดของบิตคอยน์ในฐานะทรัพย์สินเสี่ยง
*ความคิดเห็น: สถานการณ์โลกที่ตึงเครียดโดยเฉพาะการเมืองและเศรษฐกิจน่าจะทำให้สินทรัพย์อย่างบิตคอยน์ยังคงเป็นที่สนใจของนักลงทุน แต่ควรระวังแรงสั่นสะเทือนในระยะสั้นจากความผันผวนของข่าวสำคัญระดับโลกเช่นกรณีนี้*
ความคิดเห็น 0