ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมพิจารณาเพิ่ม ‘ภาษีนำเข้า’ สินค้าจากจีนเป็นสูงสุดถึง 245% สั่นคลอนตลาดการเงินอย่างหนัก ในขณะที่ราคาทองคำพุ่งทำ ‘นิวไฮ’ ส่วนบิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ
เมื่อวันที่ 24 รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า หากจีนยังคงใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สหรัฐฯ อาจเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจากเดิมที่ 145% ขึ้นเป็น 245% โดยเน้นเป้าหมายไปที่สินค้าสำคัญ อาทิ แร่ลิเธียม, นิกเกิล, โคบอลต์ รวมถึงแร่หายากซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิตอาวุธ แบตเตอรี และสมาร์ตโฟน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ขยายมาตรการทางภาษีไปยังประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ยกเว้นบางประเทศจากมาตรการดังกล่าว ยกเว้นจีน จึงถูกมองว่ามุ่งโจมตีจีนเป็นหลัก
แม้ว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกจะเติบโตเกินความคาดหมาย แต่รัฐบาลจีนแสดงความเป็นกังวลต่อบรรยากาศการค้า โดยเฉพาะความเสี่ยงที่อาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เซิ่ง ไลว์หยุน รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ได้กล่าวตำหนินโยบายของทรัมป์ว่า "ละเมิดหลักการของ WTO และเป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจโลก"
การตอบสนองของตลาดถือว่ารุนแรง ราคาทองคำทะยานทะลุ 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยดาวโจนส์ร่วง 1%, S&P500 ลดลง 1.4%, และแนสแด็กที่เน้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงถึง 2.2%
อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์(BTC) ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์นี้ ราคาย่อตัวจาก 86,500 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ประมาณ 83,000 ดอลลาร์ แต่การปรับฐานเกิดขึ้นก่อนหน้าการประกาศภาษี จึงเป็นไปได้ว่าตลาดอาจรับข่าวล่วงหน้าแล้ว ปัจจุบันราคายืนอยู่ที่ระดับ 84,000 ดอลลาร์ในลักษณะทรงตัว
*ความคิดเห็น: วิกฤตการค้าระหว่างมหาอำนาจอาจเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ที่น่าสนใจคือ บิตคอยน์กำลังเริ่มมีบทบาทในมุมนี้ เพิ่มขึ้นควบคู่ราคาทอง*
ความคิดเห็น 0