แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวหรูหรา ‘ดอร์เซีย(Dorsia)’ เตรียมเปิดให้ลูกค้าจาก 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ในกลุ่มยุโรป และตะวันออกกลาง ใช้ *คริปโต* ในการจองและชำระค่าที่พักได้แล้ว โดยการอัปเกรดฟีเจอร์นี้เป็นผลมาจากความร่วมมือกับ *มูนเพย์(MoonPay)* ผู้ให้บริการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล โดยภายในแอปของดอร์เซีย ลูกค้าจะสามารถใช้ *ยูเอสดีคอยน์(USDC)* และโทเคนบนเครือข่าย *โซลานา(SOL)* ในการจองโรงแรมหรูได้โดยตรง
มาร์ก โลเทนเบิร์ก(Marc Lotenberg) ซีอีโอของดอร์เซียให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph เมื่อวันที่ 24 ว่า "ฟีเจอร์นี้ถือเป็นก้าวต่อไปที่เป็นธรรมชาติของดอร์เซีย ที่ต้องการตอบสนองต่อความชอบของสมาชิกที่เปลี่ยนไป" โดยย้ำว่า ‘การรวมการชำระเงินแบบ *คริปโต* จะช่วยเสริมประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับลูกค้า’
ดอร์เซียนับเป็นอีกตัวอย่างของธุรกิจสายหรูที่นำ *สินทรัพย์ดิจิทัล* มาใช้งานจริง ท่ามกลางกระแสของแบรนด์ระดับโลกที่เริ่มรุกเข้าสู่ยุค Web3 ไม่ว่าจะเป็นผ่าน *NFT* หรือการเปิดรับ *คริปโต* ในการชำระค่าสินค้าหรู เช่น *ลัมโบร์กินี* และ *เฟอร์รารี* ในวงการซูเปอร์คาร์ หรือแม้แต่แบรนด์นาฬิกาไฮเอนด์อย่าง *ปาเต็กฟิลิปป์* ก็เปิดให้ใช้ *คริปโต* ได้แล้วเช่นกัน
สำหรับรูปแบบของดอร์เซีย เป็นแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อการจองโรงแรมระดับหรูโดยใช้ระบบสมาชิกแบบรายปี และใช้โมเดลราคาที่ปรับแบบไดนามิกเพื่อเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยข้อมูลจาก Grand View Research คาดว่าตลาดการท่องเที่ยวหรูทั่วโลกจะเติบโตแตะระดับ *2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *3,358 ล้านล้านวอน* ภายในปี 2030
มูนเพย์ที่อยู่เบื้องหลังระบบรับชำระเงิน *คริปโต* ของดอร์เซีย กำลังขยายกิจการอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 บริษัทมี *รายได้รวมเพิ่มขึ้น 112%* จากปีก่อนหน้า และในไตรมาสแรกของปี 2025 การทำธุรกรรมก็พุ่งขึ้นอีก *123%* เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มูนเพย์ยังซื้อกิจการ *เฮลิโอ(Helio)* ซึ่งเป็นบริษัทระบบชำระเงินบน *โซลานา* ด้วยมูลค่าราว *175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *2,555 ล้านบาท* เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจชำระเงินผ่าน *คริปโต* โดยล่าสุดยังเข้าเทคโอเวอร์บริษัทด้านโซลูชันการรับจ่ายเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ชื่อ *ไอออน(Iron)* อีกด้วย
อีวาน โซโต-ไรท์(Ivan Soto-Wright) ซีอีโอของมูนเพย์เผยว่า มูนเพย์ทำหน้าที่เป็นช่องทางชำระเงินให้กับแบรนด์ชั้นนำอย่าง *กุชชี่*, *บูกัตติ* และ *คริสตีส์* มาก่อนแล้ว และมองว่าความร่วมมือกับดอร์เซียครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ *คริปโต* เข้าไปมีบทบาทในอุตสาหกรรมหรูหรามากขึ้นอีกระดับ — ความคิดเห็น: แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมโยงระหว่าง *คริปโต* และการใช้ชีวิตระดับพรีเมียมกำลังคืบหน้าอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน ดอร์เซียได้รับเงินลงทุนรวมแล้วกว่า *5,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือ *735 ล้านบาท* จากรอบการระดมทุน ‘ซีด’ และ ‘ซีรีส์เอ’ โดยมีนักลงทุนหลักอย่าง *อินเด็กซ์เวนเจอร์(Index Ventures)*, *เรดซี(RedSea)* รวมถึงนักลงทุนเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำอย่าง *เมตา*, *อูเบอร์*, *อะตอมิก*, *กรูทฮอสพิทาลิตี้* และ *ร็อควอลกรุ๊ป*
ความคิดเห็น 0