แม้ว่า *สเตเบิลคอยน์ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ* จะยังคงครองบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต แต่เริ่มมีสัญญาณว่า ‘รูปแบบใหม่ของสินทรัพย์’ กำลังเข้ามาแทรกซึมและอาจกลายมาเป็นคู่แข่งในระยะยาว ล่าสุด ลีฟ คอลลินส์ ผู้ร่วมก่อตั้งเทเธอร์(Tether) เปิดเผยกับ Cointelegraph ระหว่างการประชุมในดูไบว่า สเตเบิลคอยน์ที่เชื่อมโยงกับดอลลาร์ยังคงทำหน้าที่เป็น ‘สกุลเงินหลัก’ ของโลกคริปโต แต่ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในการใช้สินทรัพย์ชนิดอื่นๆ เป็นหลักประกันสำหรับการออกเหรียญ
คอลลินส์กล่าวว่า ปัจจุบันสเตเบิลคอยน์มีบทบาทในการสนับสนุนอิทธิพลของเงินดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจคริปโต แต่ในภาพรวมระยะยาว อาจเป็นไปได้ว่าสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในฐานะ ‘หลักประกันใหม่’ จะได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่มองหาทางเลือกที่มีความหลากหลายและให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่า
แนวโน้มดังกล่าวเริ่มปรากฏให้เห็นจากบางบริษัทที่ทดลองออก *สเตเบิลคอยน์โดยมีสินทรัพย์อื่นรองรับ* เช่น อสังหาริมทรัพย์, พันธบัตรรัฐบาล หรือแม้กระทั่งสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งสามารถให้ความมั่นคงในมูลค่าและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
นอกจากนี้ มุมมองที่ว่าสเตเบิลคอยน์ไม่ควรยึดติดกับสกุลเงินดอลลาร์เพียงอย่างเดียวแต่ควรเปลี่ยนผ่านสู่การยึดกับ *กลุ่มสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อยกว่า* กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ *ทรัมป์แสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโตมากขึ้น* ซึ่งอาจส่งผลต่อกรอบการกำกับดูแลการออกเหรียญในสหรัฐในอนาคต
คอลลินส์สรุปว่า "สิ่งที่จะกำหนดความแข็งแกร่งของสเตเบิลคอยน์ในอนาคต ไม่ใช่แค่การผูกกับดอลลาร์อีกต่อไป แต่เป็นคำถามว่า ‘มันได้รับการรองรับจากอะไร’ ยิ่งสามารถมอบผลตอบแทนที่แท้จริงให้กับผู้ถือเหรียญได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีโอกาสสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดมากขึ้น" — *ความคิดเห็น* นี้สะท้อนการเปลี่ยนผ่านสำคัญจากยุคสเตเบิลคอยน์แบบเดิมสู่แพลตฟอร์มที่ยึดโยงกับโลกการเงินจริงมากขึ้น.
ความคิดเห็น 0