ทรัมป์มีเดียแอนด์เทคโนโลยีกรุ๊ป(TMTG) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของประธานาธิบดีทรัมป์ เดินหน้าเข้าสู่ตลาดกองทุน ETF มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.55 พันล้านบาท พร้อมเปิดตัวโทเคนยูทิลิตี้ใหม่ โดย เดวิน นูเนส ซีอีโอของบริษัท เปิดเผยแผนการลงทุนใหม่ ๆ และกลยุทธ์บูรณาการคริปโตเคอร์เรนซีผ่านจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน
TMTG ตั้งเป้าออกโทเคนยูทิลิตี้ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลของตนเองในชื่อ ‘ทรูธดิจิทัลวอลเล็ต’ โดยในระยะแรก โทเคนดังกล่าวจะสามารถใช้ชำระค่าบริการสมัครสมาชิกแพ็กเกจ ‘ทรูธพลัส’ และในอนาคตอาจขยายการใช้งานครอบคลุมทั้งระบบนิเวศของบริษัท
นูเนสเปิดเผยว่าบริษัทมีเงินสดในมือประมาณ 777 ล้านดอลลาร์ พร้อมแผนพัฒนา ‘ทรูธพลัส’ ให้มีฟีเจอร์ใหม่ระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอความยาวสูงสุด, ฟังก์ชันแก้ไขข้อความ, ช่องข่าวแนวอนุรักษนิยม และคอนเทนต์ที่เหมาะกับครอบครัว
ขณะเดียวกัน TMTG ยังเตรียมเปิดบริการทางการเงินผ่านแบรนด์ใหม่ ‘ทรูธไฟแนนซ์’ (Truth.Fi) โดยร่วมมือกับ โยควิล อเมริกา อิควิตีส์ และอินเด็กซ์ เทคโนโลยีส์ กรุ๊ป เพื่อออกผลิตภัณฑ์กองทุน ETF ยึดแนวคิด ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ รวมถึงแพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์ ซึ่งสนับสนุนด้วยเงินลงทุนกว่า 250 ล้านดอลลาร์ *คำ*
*ความคิดเห็น* การเข้าสู่ตลาดทุนเต็มรูปแบบเช่นนี้อาจเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่พยายามยกระดับความน่าเชื่อถือของ TMTG ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจคริปโตของทรัมป์ยังไม่พ้นการวิพากษ์วิจารณ์ แม้ทรัมป์จะโอนหุ้นร้อยละ 59 ไปยังทรัสต์แล้ว แต่เขายังคงดำรงตำแหน่ง ‘ผู้แทนด้านคริปโตเคอร์เรนซี’ ของบริษัท เวิลด์ลิเบอร์ตี้ไฟแนนเชียล อีกทั้ง TMTG ก็เป็นบริษัทที่ครอบครัวทรัมป์เป็นเจ้าของส่วนใหญ่โดยตรง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน โดยก่อนหน้านี้ โทเคนแนวมิม ‘ออฟฟิเชียลทรัมป์’(TRUMP) ซึ่งออกก่อนประกาศลงสมัครเลือกตั้ง ก็เป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้างเช่นกัน
นูเนสยังได้กล่าวถึงกรณีกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายหนึ่งที่เปิดสถานะชอร์ตหุ้น TMTG ถึง 6 ล้านหุ้น พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าอาจเข้าข่าย ‘ปั่นหุ้น’ และเปิดเผยว่าได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) แล้ว
ซีอีโอยังระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการควบรวมกิจการ(M&A) เพื่อมองหาสินทรัพย์ใหม่ที่สามารถเป็น ‘อัญมณีมงกุฎ’ ซึ่งจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวขององค์กร
แม้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และแผนลงทุนขนาดใหญ่ แต่ราคาหุ้นของทรัมป์มีเดีย (DJT) ณ วันเดียวกันยังคง *ลดลง 3%* และเมื่อเทียบกับต้นปี *ปรับตัวลดลงแล้ว 26%* สะท้อนความไม่แน่นอนในตลาดที่ส่งผลให้ความสนใจของนักลงทุนเริ่มลดลงตามไปด้วย
ความคิดเห็น 0