คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ยุติการสอบสวนเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ PYUSD ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐของเพย์พาล(PayPal) โดยไม่มีการดำเนินคดีหรือการลงโทษแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 29 เพย์พาลได้ยื่นเอกสารต่อ SEC โดยเปิดเผยว่า หน่วยงานดังกล่าวแจ้งความตั้งใจยุติการสอบสวนในคดีนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยไม่ใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายใดๆ ซึ่งนับเป็นเวลาเพียงสามเดือนหลังจากที่ SEC ส่งหมายเรียกถึงเพย์พาลเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน โดยที่ผ่านมา เพย์พาลได้ให้ความร่วมมือในการจัดส่งเอกสารต่างๆ อย่างเต็มที่เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ PYUSD
เพย์พาลระบุว่า PYUSD สามารถแลกกลับเป็นดอลลาร์สหรัฐได้ 100% และมีการสนับสนุนด้วยสินทรัพย์จริง เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นและเงินสด อย่างไรก็ตาม สเตเบิลคอยน์ของเพย์พาลยังคงประสบปัญหาในการขยายส่วนแบ่งตลาดนับตั้งแต่เปิดตัว ด้วยเหตุที่ต้องเผชิญกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอย่างเทเธอร์(USDT) และ USDC ของเซอร์เคิล(Circle) ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ PYUSD อยู่ที่ราว 880 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท ยังคงห่างไกลจากเทเธอร์ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 148.5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 21.68 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม PYUSD มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายอดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้นถึง 75% ตามข้อมูลจาก CoinGecko แม้ปัจจุบันยังต่ำกว่าจำนวนอุปทานสูงสุดที่เคยมีในเดือนสิงหาคม 2024 อยู่ราว 14% ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านดอลลาร์
การยุติการสอบสวนของ SEC ครั้งนี้ ช่วยเปิดทางให้เพย์พาลเดินหน้าขยายแผนธุรกิจสเตเบิลคอยน์ได้มั่นคงยิ่งขึ้น ความคิดเห็นจากวงการมองว่าท่าทีสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงแนวโน้มการผ่อนคลายกฎระเบียบ อาจกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้บริษัทการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเพย์พาลเข้าสู่วงการบล็อกเชนได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ความคิดเห็น 0