โครงการระบุตัวตนดิจิทัล ‘เวิลด์(World)’ ที่นำโดย แซม อัลต์แมน(Sam Altman) ซีอีโอของโอเพนเอไอ(OpenAI) เผชิญกับอุปสรรคครั้งใหญ่ในอินโดนีเซีย หลังจากทางการประกาศระงับใบอนุญาตการดำเนินงานของระบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้โครงการต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 5 กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของอินโดนีเซีย(Kominfo) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า โครงการเวิลด์และตัวตนดิจิทัล เวิลด์ ไอดี(World ID) จะถูกระงับใบอนุญาตระบบอิเล็กทรอนิกส์ (TDPSE) ชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าโครงการดังกล่าวมีการละเมิดกระบวนการลงทะเบียน รวมถึงมีพฤติกรรมบางอย่างที่น่าสงสัย
มาตรการล่าสุดนี้ทำให้รัฐบาลมีแผนเรียกตัวบริษัทย่อยสองแห่ง คือ PT เตอร์รัง บูแลน อะบาดี (Terang Bulan Abadi) และ PT ซานดินา อะบาดี นูซานทารา (Sandina Abadi Nusantara) ซึ่งใช้ในการดำเนินการในประเทศอินโดนีเซีย เพื่ออธิบายถึงข้อสงสัยและข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น
จากผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า PT เตอร์รัง บูแลน อะบาดี ถูกสงสัยว่าให้บริการโดยไม่ได้ลงทะเบียนใบอนุญาต TDPSE ขณะที่ PT ซานดินา อะบาดี นูซานทารา ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานจริง กำลังถูกสอบสวนในข้อหานำชื่อบุคคลอื่นมาใช้เป็นผู้แทนทางกฎหมายอย่างผิดกฎหมาย Kominfo เน้นย้ำว่า การใช้ข้อมูลการลงทะเบียนของบริษัทอื่นเพื่อให้บริการถือเป็นการละเมิดกฎหมายดิจิทัลของอินโดนีเซียอย่างร้ายแรง
อเล็กซานเดอร์ ซาบาร์(Alexander Sabar) ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบดิจิทัล กล่าวเตือนว่า “บริการเวิลด์คอยน์ที่ลงทะเบียนภายใต้ชื่อ PT ซานดินา อะบาดี นูซานทารา มีความผิดทั้งในแง่การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทะเบียนและการปลอมแปลงตัวตนทางกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง” พร้อมเสริมว่า “รัฐบาลดำเนินการเชิงรุกเพื่อปกป้องสังคม พร้อมควบคุมดูแลให้ระบบดิจิทัลมีความยุติธรรมและปลอดภัย”
โครงการเวิลด์ ซึ่งมีเป้าหมายในการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนดิจิทัลและแจกจ่ายเวิลด์คอยน์(WLD) กำลังเป็นหนึ่งในโครงการเรือธงของอัลต์แมน อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและความโปร่งใสทางกฎหมายเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศ
*ความคิดเห็น*: การดำเนินการของอินโดนีเซียอาจเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญต่อโครงการระดับโลกของเวิลด์ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นที่เข้มงวดมากขึ้น
ความคิดเห็น 0