วันอังคารที่ผ่านมา ในงานปารีสบล็อกเชนวีค 2025 อเล็กซานดรา “ซาชา” เปติโซวา หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของวันอิ้นช์(1inch) ได้เปิดเผยถึงจุดยืนและแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในโลกของดีไฟ(DeFi) พร้อมทั้งพูดถึงวิวัฒนาการของตลาดคริปโตโดยรวม
วันอิ้นช์(1inch) เป็นหนึ่งใน ‘ดิฟฟิวงค์ แอกกริเกเตอร์’ หรือ ‘ตัวรวมตลาดดีไฟ’ ที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีความแตกต่างจากกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจทั่วไป เนื่องจากไม่ทำงานแบบกระดานซื้อขายเดี่ยว แต่ใช้ระบบที่รวบรวมข้อมูลจากกระดานซื้อขายแบบกระจายอำนาจมากกว่าหลายร้อยแห่ง เพื่อหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งาน
ซาชาระบุว่า “เราใช้โซลูชันที่เรียกว่า ‘ฟิวชัน’ ซึ่งช่วยให้สามารถสลับสินทรัพย์ข้ามเชนได้โดยไม่มีค่าก๊าซ รองรับการใช้งานระหว่างเครือข่ายที่ใช้ EVM ไม่พึ่งพาบริดจ์จากบุคคลที่สาม และมีระบบป้องกันการโจมตีแบบ MEV ทำให้การสลับสินทรัพย์เร็วกว่า ถูกกว่า และปลอดภัยยิ่งขึ้น”
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป นั่นหมายถึงต้นทุนและความยุ่งยากในการโอนสินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายลดลง ซึ่ง *ค่าธรรมเนียมก๊าซและค่าบริการแพลตฟอร์ม* ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สั่นคลอนพอร์ตของนักเทรดโดยเฉพาะในภาวะตลาดผันผวน
ซาชายังเสริมว่า “เรารวบรวมสภาพคล่องจาก DEX มากกว่า 500 แห่งใน 10-13 เชน ในโหมดฟิวชัน เรามีตัวประมวลผลที่เรียกว่า รีโซลเวอร์ ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเมกเกอร์ระดับมืออาชีพที่ดึงสภาพคล่องมาจากทั้งแหล่งแบบกระจายอำนาจและศูนย์กลาง”
ในด้านความปลอดภัย วันอิ้นช์(1inch) ให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก “ทุกครั้งที่เราอัปเดตหรือเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ จะมีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างน้อย 5-10 รอบ” เธอกล่าว โดย *อันตอน บูคอฟ* CTO ของบริษัทมีปรัชญาชัดเจนในการออกแบบ *สมาร์ตคอนแทรกต์แบบเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด*
วันอิ้นช์(1inch) ได้ก้าวอีกขั้นด้วยการเปิดสำนักงานจริงแห่งแรกในดูไบ ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักสำหรับตลาดในภูมิภาค IMEA และมองอนาคตว่า *นักลงทุนสถาบันจะเริ่มเข้ามาในดีไฟมากขึ้นเรื่อยๆ*
สำหรับประเด็น ‘มิมคอยน์’ ซาชาแสดงความเห็นว่า “การที่เหรียญล้อเลียนประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นกระแสนิยม ทำให้ผู้ใช้หน้าใหม่จำนวนมากเข้าสู่วงการ แต่หลายคนขาดพื้นฐานและต้องเผชิญกับการขาดทุน ฉันจึงมองว่าเราควรมีระบบเตือนหรือการให้ความรู้เพื่อชี้ให้เห็นว่า *มิมคอยน์ไม่ได้แปลว่าจะให้กำไรเสมอไป*”
เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา วันอิ้นช์(1inch) ได้ประกาศขยายเครือข่ายไปยัง *โซลานา(SOL)* พร้อมส่งสัญญาณว่ากำลังพิจารณาเชนเลเยอร์ 1 รายใหม่ โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ตอนนี้เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครือข่าย EVM อีกต่อไป อยากให้ลองเดาดูว่าเครือข่ายต่อไปจะเป็นอะไร”
ความคิดเห็น 0