เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) โค จูชุน(Ko Ju-Chun) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไต้หวัน เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดีย X ว่า ได้เสนอแนะอย่างเป็นทางการให้รัฐบาลไต้หวันพิจารณา *บิตคอยน์(BTC)* เป็นหนึ่งใน ‘ทรัพย์สินสำรองของประเทศ’ โดยชี้ว่าในภาวะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกกำลังรุนแรงขึ้น บิตคอยน์สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและควรถูกยกระดับให้เป็น ‘สินทรัพย์ยุทธศาสตร์หน้าใหม่’ ควบคู่กับทองคำและเงินตราต่างประเทศที่มีอยู่ในคลังแล้ว
ข้อเสนอดังกล่าวของโค จูชุน เกิดขึ้นจากคำปราศรัยในการประชุมรัฐสภาที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 โดยเจ้าตัวย้ำว่า "ในสภาวะที่แรงกดดันเงินเฟ้อทั่วโลกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลกระทบกว้างขวางต่อระบบการเงินโลก บิตคอยน์ได้กลายเป็นทรัพย์สินที่ธนาคารกลางและบริษัทรายใหญ่ในหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น"
เขายังเสนอว่าไต้หวันควรจัดประเภท *บิตคอยน์* เป็น *“สินทรัพย์ปลอดภัย”* เช่นเดียวกับทองคำ พร้อมชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรพิจารณาเพิ่มบิตคอยน์ในกรอบการบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่ม ‘ความหลากหลาย’ ในพอร์ตการลงทุนของประเทศ โดยเฉพาะในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกอย่างไต้หวัน ซึ่งเปราะบางต่อความผันผวนของนโยบายการเงินโลกและค่าเงินอย่างยิ่ง
แม้ว่ายังไม่มีประเทศใดนำ *บิตคอยน์(BTC)* มาใช้เป็นทรัพย์สินสำรองอย่างเป็นทางการ แต่กรณีของเอลซัลวาดอร์ที่หน่วยงานในระดับธนาคารกลางได้นำบิตคอยน์เข้าไว้ในคลังสมบัติของชาติ ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญระบุว่าข้อเสนอของโค จูชุน อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียงใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับบทบาทของคริปโตในการบริหารทรัพย์สินระดับชาติเฉพาะในไต้หวัน
*ความคิดเห็น* จากวงการคริปโตมองว่า หากข้อเสนอนี้ถูกผลักดันจนเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่งกรณีสำคัญที่คริปโตเคอร์เรนซีถูกบรรจุเข้าในโครงสร้างสินทรัพย์ระดับประเทศ ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งให้ประเทศอื่นๆ เริ่มพิจารณาทิศทางเดียวกันในอนาคต
ความคิดเห็น 0