ตลาดเงินกู้ NFT เผชิญภาวะซบเซารุนแรง โดยล่าสุดมูลค่าตลาดลดลงกว่า 97% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีมูลค่าเพียง 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 685 พันล้านวอน (ณ วันที่ 21 พฤษภาคม) ซึ่งเท่ากับลดลงกว่า 83% เมื่อเทียบกับต้นปี 2024
แม้ในช่วงต้นปี แพลตฟอร์มหลักที่ให้บริการเงินกู้ NFT อย่าง Blend ของ Blur และ NFTfi จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดกลับมาคึกคักชั่วคราว แต่ความสนใจจากผู้ใช้งานกลับลดลงอย่างรวดเร็วในระยะหลัง
‘ภาวะซบเซา’ ของตลาดเงินกู้ NFT สอดคล้องกับการร่วงลงของตลาด NFT โดยรวม โดยเฉพาะราคาพื้นฐานของคอลเลกชันหลักที่ลดลงมากกว่า 50% จากจุดสูงสุด ทำให้มูลค่าของ NFT ที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ลดลงมากเช่นกัน
ข้อมูลล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2024 พบว่า ‘ระยะเวลาการกู้ยืม’ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31 วัน ลดลงจาก 40 วันในปี 2023 ซึ่งชี้ว่า ‘ผู้กู้’ มุ่งเน้นการใช้ NFT เพื่อระดมสภาพคล่องในระยะสั้น มากกว่าการถือครองเงินกู้ระยะยาว
ด้าน ‘จำนวนเงินกู้เฉลี่ย’ ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 14,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม 2024 เหลือเพียง 4,000 ดอลลาร์ในเดือนเดียวกันของปีนี้ คิดเป็นการลดลงถึง 71% ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของผู้กู้ที่เลือกใช้ NFT ราคาต่ำเป็นหลักประกัน และหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจที่มีความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมต่างตื่นตัวในการพลิกฟื้นตลาด โดยเน้นการนำ NFT ที่อิงกับสินทรัพย์จริง หรือ ‘RWA’ มาใช้งาน การปรับปรุงอินเทอร์เฟซให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ และการพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วยระบบ AI ขณะเดียวกัน ยังมีข้อเสนอให้ขยายจากโมเดล P2P เดิม ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ เช่น ระบบประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิต และสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
‘ความคิดเห็น’ หลายฝ่ายระบุว่า หากไม่เร่งปรับโครงสร้างและเทคโนโลยีใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดเงินกู้ NFT อาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันใกล้
ความคิดเห็น 0