ชิบะอินุ(SHIB) กลับมาสร้างความเคลื่อนไหวอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากชุมชนมีการ ‘เผา’ โทเคนไปกว่า 1.3 พันล้านเหรียญอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราการเผาในหนึ่งวันพุ่งขึ้นกว่า 4,000% อย่างไรก็ตาม ราคาของชิบะอินุกลับ ‘ลดลง’ สะท้อนความขัดแย้งระหว่างความพยายามลดอุปทานกับพฤติกรรมของตลาดที่ไม่ตอบสนองตามคาด
การเผาโทเคนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของชิบะอินุในการลดปริมาณเหรียญหมุนเวียน โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีการส่งเหรียญรวมกว่า 1,338,380,740 SHIB ไปยังกระเป๋าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้หรือที่เรียกว่า *dead wallet* เพิ่มขึ้นประมาณ 2.1% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ในวันที่ 3 กรกฎาคมเพียงวันเดียว ชุมชนได้เผาเหรียญถึง 13.1 ล้าน SHIB แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยในภาพรวม ขณะนี้มีชิบะอินุที่ถูกเผาไปแล้วมากกว่า 410 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลต่อ ‘ความหายาก’ ของเหรียญในระยะยาว
สิ่งที่โดดเด่นในการเผาครั้งนี้คือ ปริมาณที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีการเผาโทเคนถึง 1,315,219,70 SHIB เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าถึง 4,063% โดยเชื่อว่า โทเคนส่วนนั้นมาจากที่อยู่ของ *วาฬนิรนาม* รายหนึ่ง โดยแม้การเผาครั้งใหญ่จะดึงดูดความสนใจของตลาดในช่วงสั้น แต่กลับไม่สามารถช่วยพยุงราคาจากการปรับฐานได้ในทางปฏิบัติ
ราคาชิบะอินุในช่วงสัปดาห์นั้นลดลง 3.65% มาอยู่ที่ประมาณ $0.00001156 หรือราว 0.016 บาท ทำให้ความหวังของนักลงทุนที่ต้องการเห็นการฟื้นตัวของราคาเผชิญกับความผิดหวัง ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสาเหตุหลักที่การเผาไม่ส่งผลต่อราคาคือ ‘อุปทานทั้งหมดที่มากเกินไป’ และ ‘แรงซื้อที่ยังอ่อนแอ’ ซึ่งหมายความว่า การทำให้ SHIB เปลี่ยนสถานะเป็นสินทรัพย์ที่มีความหายากจำเป็นต้องอาศัย ‘ทั้งกลยุทธ์การเผา การใช้งานในระบบ และการดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน’
แม้ชุมชน SHIB ยังคงเดินหน้าสร้างแรงกดดันผ่านการเผาเหรียญอย่างต่อเนื่อง แต่ท่ามกลางกระแสตลาดและความไม่แน่นอน การฟื้นราคาที่เคยคาดหวังอาจต้องใช้ ‘เวลา’ และ ‘ความเชื่อมั่น’ ของตลาดควบคู่กันไป ชีวิตของ SHIB จึงอาจถูกกำหนดโดยปัจจัยที่ซับซ้อนยิ่งกว่าการลดอุปทานเพียงอย่างเดียว
ความคิดเห็น 0