กระแสอนุมัติ ‘กองทุน ETF แบบถือครองจริง’ สำหรับเหรียญทางเลือก หรือ ‘อัลท์คอยน์’ กำลังเป็นประเด็นร้อนในตลาดคริปโตอีกครั้ง หลังจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ได้เปิดประตูให้โครงการอื่นๆ ตามมา โดยมีการคาดการณ์ว่า หากได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ เงินทุนไหลเข้าตลาดอัลท์คอยน์อาจสูงถึง ‘19.46 ล้านล้านวอน’ หรือกว่า *140 พันล้านดอลลาร์* ภายในระยะเวลาหนึ่งปี
จากรายงานล่าสุดของนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง *รัค เดวีส* ผ่าน YouTube เขาระบุว่า ความเป็นไปได้ในการที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) จะอนุมัติ ETF สำหรับเหรียญอย่างริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), ไลต์คอยน์(LTC) และดอจคอยน์(DOGE) กำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากท่าทีของ SEC ที่เริ่ม ‘อ่อนตัวลง’ อย่างมีนัยสำคัญ *ความคิดเห็น* เขายืนยันว่า หาก ‘สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้’ ได้รับสถานะ ETF จริง จะมี ‘เม็ดเงินจากสถาบัน’ หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เหรียญริปเปิลได้รับความสนใจอีกครั้งหลัง ‘การถอนอุทธรณ์ร่วมระหว่างบริษัท Ripple กับ SEC’ ทำให้สถานะทางกฎหมายปลดล็อก ปัจจุบันมีการยื่นคำขอ ETF แล้วถึง 7 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bloomberg อย่าง *เจมส์ เซย์เฟิร์ต* คาดว่า XRP ETF อาจมียอดเงินไหลเข้าสูงถึง 85 พันล้านวอน (ราว 61 ล้านดอลลาร์) *ภายในสัปดาห์แรกของการเปิดตัว* ส่วน *เจพีมอร์แกน* มองว่าตลอดทั้งปี อาจสูงถึง 1.112 ล้านล้านวอน (8 พันล้านดอลลาร์) ด้าน *แจ็ค เรคเตอร์* นักวิเคราะห์ชื่อดังอีกคนแสดง *ความเห็นเชิงรุก* ว่า “XRP อาจพุ่งสูงถึง 30 ดอลลาร์ (ราว 41,700 วอน)” หาก ETF ได้รับอนุมัติ
ในฝั่งของโซลานา(SOL) ขณะนี้มีการยื่นคำขอจำนวน 9 ราย และ *ETF ที่ผูกกับการสเตก SOL* รายแรกของสหรัฐก็ได้เปิดตัวไปแล้ว โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่า XRP Futures ETF เสียอีก JPมอร์แกนประเมินว่า หากได้รับอนุมัติ ETF ของโซลานาอาจดึงดูดเงินได้สูงถึง 417 พันล้าน~834 พันล้านวอน (3~6 พันล้านดอลลาร์) พร้อมคาดว่า *การอนุมัติอาจเกิดขึ้นจริงภายในเดือนนี้*
ไลต์คอยน์ ซึ่งถือเป็นโครงการดั้งเดิมในวงการเองก็กำลังเข้าสู่สนาม ETF อย่างเงียบๆ โดยมีการยื่นคำขอแล้ว 3 ราย รัค เดวีส คาดว่า ETF ไลต์คอยน์จะสามารถดึงดูดเงินทุนได้ราว 40,000~81,000 ล้านวอน (ประมาณ 290~580 ล้านดอลลาร์) *โดยพิจารณาจากมูลค่าตลาดในปัจจุบัน*
ขณะที่ดอจคอยน์(DOGE) ก็อยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง ETF จากเดิมที่เป็น ‘ฟิวเจอร์ส’ ไปสู่ ‘กองทุนที่ถือครองดอจคอยน์จริง’ บริษัทจัดการสินทรัพย์ *Bitwise* กำลังดำเนินการปรับรูปแบบดังกล่าว โดยมีการประเมินว่า หากเพียง ‘10% ของเงินทุนจาก ETF บิตคอยน์’ โยกเข้าสู่ DOGE ก็จะสร้างสภาพคล่องใหม่ได้กว่า 556 พันล้านวอน (ราว 4 พันล้านดอลลาร์)
เหรียญรุ่นใหม่อย่าง คาร์ดาโน(ADA), อวาแลนเช่(AVAX), ซุย(SUI) และแอปทอส(APT) กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเปลี่ยนสถานะผลิตภัณฑ์ของ ‘กองทุน Grayscale’ ให้กลายเป็น ETF เช่นเดียวกัน JPมอร์แกนประเมินว่า หากเหรียญเหล่านี้ได้รับอนุมัติ ก็อาจผลักดันให้ ‘ETF สำหรับอัลท์คอยน์ทั้งหมด’ ดึงดูดเงินทุนได้ 19.46 ล้านล้านวอน หรือราว *140 พันล้านดอลลาร์* ภายใน 1 ปี ทั้งนี้ยังเป็นตัวเลข ‘ที่ประเมินแบบอนุรักษ์นิยมแล้ว’ ตามข้อสังเกตของนักวิจารณ์สายกลยุทธ์
รัค เดวีส กล่าวทิ้งท้ายว่า “อัลท์คอยน์นั้นมีสภาพคล่องต่ำแต่มีโอกาสทำกำไรสูง” ซึ่งสะท้อนว่า “นักลงทุนสถาบันจะยิ่งสนใจมากขึ้น” ขณะที่นักลงทุนทั่วไปยังไม่รู้เท่าทันสถานการณ์นี้มากนัก ทำให้ ETF กลายเป็น ‘ปัจจัยเร่งเข้าสู่ฤดูแห่งอัลท์คอยน์’ อย่างชัดเจน
ปัจจุบัน ความคืบหน้าในการอนุมัติ ETF สำหรับอัลท์คอยน์กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วตลาด โดยเฉพาะในสหรัฐ ทำให้ *ท่าทีของ SEC* กลายเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ที่จะกำหนดทิศทางของตลาดคริปโตในครึ่งปีหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
ความคิดเห็น 0