โครงการ "TON โกลเด้นวีซ่า" ที่เสนอโดยโอเพนเน็ตเวิร์ก(TON) กลายเป็นประเด็นถกเถียง หลังทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับความถูกต้องของโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โครงการนี้ซึ่งเสนอว่าผู้ที่ฝากคริปโตเคอร์เรนซีสกุลโทนคอยน์(TON) ในปริมาณที่กำหนด สามารถขอวีซ่าระยะยาวเข้าพำนักในดูไบได้ กลับถูกหน่วยงานรัฐของ UAE ยืนยันว่า *ไม่เป็นความจริง*
เมื่อวันที่ 6 TON ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์ทางการว่า หากผู้ลงทุนทำการสเตกโทนคอยน์มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.39 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 3 ปี และชำระค่าธรรมเนียมอีก 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.86 แสนบาท) จะมีสิทธิได้รับวีซ่าทอง (Golden Visa) จาก UAE ที่มีอายุ 10 ปี โดยอธิบายเพิ่มเติมว่าเอกสารทั้งหมดจะได้รับการดำเนินการและออกวีซ่าภายใน 7 สัปดาห์ รวมถึงมีพันธมิตรในพื้นที่ที่จะช่วยดำเนินการออกวีซ่าและรับรองคุณสมบัติของผู้สมัคร
แต่ในวันเดียวกัน สำนักข่าวทางการของ UAE อย่าง WAM กลับรายงานจากคำแถลงร่วมของสำนักงานหลักด้านความมั่นคงและการตรวจคนเข้าเมือง ได้แก่ สำนักงานสัญชาติและการเข้าเมือง(ICP), สำนักงานกำกับดูแลสินทรัพย์(SCA) และสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล(VARA) โดยระบุว่า *“รัฐบาลไม่พิจารณาการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเกณฑ์ในการออกวีซ่าทอง”* และย้ำว่าโครงการของ TON ไม่ได้รับการรับรองหรืออยู่ในขอบเขตการกำกับของ VARA แต่อย่างใด
หน่วยงานเหล่านี้ยังเตือนนักลงทุนให้ระวังการรับข้อมูลที่ *ผิดพลาดหรือมีลักษณะหลอกลวง* และให้ใช้เฉพาะช่องทางทางการในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าประเภทใด ๆ ทั้งสิ้น โดยระบุชัดเจนว่า *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องอยู่ภายใต้กรอบการกำกับเฉพาะ และไม่เกี่ยวข้องกับการขอวีซ่าถาวร*
TON พยายามโปรโมตโครงการนี้ว่าผู้สมัครจะยังคงควบคุมสินทรัพย์ที่ถูกสเตกไว้ได้อย่างเต็มที่ พร้อมอ้างถึง *ความโปร่งใสและความปลอดภัย* ผ่านสมาร์ตคอนแทรกต์บนบล็อกเชน นอกจากนี้ ยังเสนอ *ผลตอบแทนประมาณ 3–4% ต่อปี* และโอกาสในการขอวีซ่าสำหรับสมาชิกในครอบครัวเช่น คู่สมรส บุตร และบิดามารดา
*ความคิดเห็น*: เหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของโครงการ TON อย่างหนัก และอาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์วีซ่าที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในตลาดสากล โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจในการถือสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ในการย้ายถิ่นฐาน หลังประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มแสดงท่าทีสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น การที่บริษัทนำเสนอภาพลักษณ์ของการได้วีซ่าถาวรพร้อมผลตอบแทนสูง แต่ขาดการตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดและความเสื่อมศรัทธาต่อระบบนิเวศคริปโตอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0