Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ปริศนา 80,000 บิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวสะเทือนตลาด ส่อช่องโหว่ระบบเก่า ชวาร์ตซ์ยันไม่ใช่การแฮก

ปริศนา 80,000 บิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวสะเทือนตลาด ส่อช่องโหว่ระบบเก่า ชวาร์ตซ์ยันไม่ใช่การแฮก / Tokenpost

การเคลื่อนไหวของเงินจำนวนมหาศาลบนเครือข่ายบิตคอยน์(BTC)เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ได้สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุน พร้อมปลุกกระแสข่าว ‘กระเป๋าเงินซาโตชิถูกแฮก’ ให้กลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เดวิด ชวาร์ตซ์(David Schwartz) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของริปเปิล(XRP) ได้ออกมา *ปฏิเสธอย่างแข็งขัน* ถึงความเป็นไปได้ที่กระเป๋าของซาโตชิถูกเจาะระบบ

เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อมีข้อความ OP_RETURN ถูกส่งจากที่อยู่แบบ P2PKH ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในช่วงแรกของบิตคอยน์ ในข้อความอ้างถึง ‘การเป็นเจ้าของสินทรัพย์’ ภายในที่อยู่นั้น จนนำไปสู่กระแสว่า กระเป๋าของซาโตชิ นากาโมโตะ อาจถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ด้วยความที่ที่อยู่เหล่านี้มีโครงสร้าง ‘เปราะบางต่อความปลอดภัย’ ทำให้ตลาดโยงเหตุการณ์นี้ไปสู่ความกังวลใน *ระบบเข้ารหัสแกนหลักของบิตคอยน์*

เพียงไม่กี่วันถัดมา มีการย้ายเหรียญมากถึง 80,000 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 11.12 ล้านล้านวอน หรือราว 283,000 ล้านบาทไทย จากที่อยู่เหล่านั้นไปยังที่อยู่แบบเซ็กวิท(SegWit) ซึ่งไม่เคยมีกิจกรรมใดๆ มากว่า 14 ปี การเคลื่อนไหวแบบกะทันหันจึงสร้างความตื่นตระหนกได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ของแพลตฟอร์มออนเชน Arkham และคำอธิบายของ ชาร์ลส์ กิลเลเมต์(Charles Guillemet) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ Ledger ชี้ว่าการโยกย้ายครั้งนี้ *อาจเป็นเพียงการปรับปรุงความปลอดภัยของกระเป๋าเงินเดิมเท่านั้น* อีกทั้งไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่ามีเหรียญถูกโอนไปยังตลาดเทรด

เดวิด ชวาร์ตซ์ ให้ความเห็นว่า การเคลื่อนไหวของเหรียญอาจมีอยู่ 2 ความเป็นไปได้ หนึ่งคือ ‘การสวมบทบาท’ เพื่อฟอกเหรียญที่ถืออยู่ให้ดูถูกกฎหมาย และอีกหนึ่งคือ มีบุคคลเจตนาเข้าถึงกระเป๋าที่มีคีย์ไม่ปลอดภัยโดยอ้างความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง เขาเน้นว่า “*ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่าระบบเข้ารหัสของบิตคอยน์ถูกเจาะจริง*”

ในหมู่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มองว่าการย้ายเหรียญครั้งนี้เป็นสัญญาณของแรงขายแต่อย่างใด บ้างมองว่าอาจเป็น ‘นักขุดในยุคแรก’ ที่เพิ่งกู้คืนคีย์สำเร็จ หรืออาจเป็นเพียงการกระทำที่วางแผนมานานแล้ว ขณะเดียวกัน ชวาร์ตซ์ยังระบุว่า แม้จะไม่เชื่อทฤษฎี ‘การแฮกกระเป๋าซาโตชิ’ แต่ก็ยอมรับว่า ระบบกระเป๋ารุ่นเก่ามี ‘ช่องโหว่ทางความปลอดภัยที่ควรถูกจับตามอง’

ด้านข้อมูลเก่าในปี 2023 จากเอกสารของศาล ชวาร์ตซ์เคยกล่าวว่า “*ซาโตชิน่าจะถือเหรียญ XRP อยู่ในปริมาณไม่น้อย*” ซึ่งเคยสร้างกระแสความสนใจในเวลานั้น

ท้ายที่สุด ยังไม่มีข้อมูลใดบ่งชี้ว่า กระเป๋าของซาโตชิถูกเจาะระบบจริง ขณะที่การโยกย้ายเหรียญเหล่านั้นยังคงเป็น ‘ปริศนาที่ไร้คำตอบ’ อย่างไรก็ตาม ช่องโหว่ในโครงสร้างระบบเก่าก็สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการ และ *อาจกลายเป็นสัญญาณเตือนครั้งสำคัญ* หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1