บิตคอยน์(BTC) ได้ทำสถิติใหม่อีกครั้งในช่วงเช้าของวันที่ 14 หลังจากตลาดเอเชียเปิดทำการ โดยราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความคาดหวังเชิงบวกจากตลาดที่ได้รับแรงหนุนจากการที่สภาผู้แทนฯ สหรัฐประกาศให้สัปดาห์นี้เป็น ‘สัปดาห์คริปโต’ และประธานาธิบดีทรัมป์กำลังผลักดันร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ตามข้อมูลจาก TradingView ราคาบิตคอยน์บนแพลตฟอร์ม Coinbase พุ่งแตะระดับ 122,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17.0 ล้านบาท) ขณะที่ CoinGecko รายงานราคาสูงสุดที่ 122,376 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.0 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 3.5% ภายในวันเดียว
การปรับตัวขึ้นในครั้งนี้ยังคงต่อเนื่องจากที่บิตคอยน์พุ่งทะลุ 118,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 ซึ่งส่งสัญญาณว่าได้เข้าสู่ ‘ช่วงค้นหาราคาใหม่’ โดยมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในสภาสหรัฐ
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นบิตคอยน์ คือร่างกฎหมายการใช้จ่ายของภาครัฐในชื่อ ‘One Big Beautiful Bill’ ซึ่งเสนอโดยทรัมป์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มสภาพคล่องในตลาด โดยนิค ฟอสเตอร์(Nick Forster) ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มอนุพันธ์ Derive ระบุในบันทึกถึงนักลงทุนว่า “นโยบายของทรัมป์ส่งสัญญาณถึงการขยายตัวของสภาพคล่อง ซึ่งตีความได้ว่าเป็นปัจจัยบวกต่อบิตคอยน์อย่างมีนัยสำคัญ”
นอกจากนี้ สภาผู้แทนฯ สหรัฐได้กำหนดช่วงระหว่างวันที่ 14 ถึง 18 กรกฎาคมให้เป็น ‘สัปดาห์คริปโต’ โดยเสนอร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมาย GENIUS สำหรับควบคุมสเตเบิลคอยน์, กฎหมาย CLARITY สำหรับกรอบกำกับสินทรัพย์ดิจิทัล และกฎหมายต่อต้านการใช้ CBDC ในรูปแบบเฝ้าระวัง ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐเริ่มมองบิตคอยน์เป็น *สินทรัพย์ยุทธศาสตร์*
นักวิเคราะห์ตลาด โจ คอนซอร์ติ(Joe Consorti) ระบุว่าบิตคอยน์มีมูลค่าตลาดทะลุ 2.39 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,322 ล้านล้านบาท) แซงหน้าอเมซอน ทำให้กลายเป็น *สินทรัพย์ใหญ่อันดับ 5 ของโลก* โดยเขายังเปิดเผยว่า ราคาปรับตัวขึ้นจาก 120,000 ดอลลาร์ไปที่ 121,000 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการปิดสถานะชอร์ตของนักลงทุนสถาบัน คิดเป็นมูลค่าถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท) ภายในเวลาเพียง 60 วินาที
ด้านแอนโทนี พอมเปลียโน(Anthony Pompliano) ผู้ก่อตั้งโครงการด้านคริปโตชื่อดัง ให้ความเห็นเกี่ยวกับรอบขาขึ้นของตลาดในครั้งนี้ว่า “บิตคอยน์คือเทคโนโลยีเดียวในโลกที่สามารถแก้ไข *ปัญหาการด้อยค่าของเงินตรา* ที่กระทบผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกในปัจจุบัน”
ขณะเดียวกัน ‘โทเคนสินทรัพย์จริง (Real-World Asset หรือ RWA)’ กลายเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนแข็งแกร่งที่สุดในตลาด โดย CoinGecko เปิดเผยว่าหมวดสินทรัพย์นี้มีอัตราการเติบโตถึง 13% นำหน้าโทเคนด้าน AI และ 밈คอยน์ โดยโปรเจกต์ที่โดดเด่น ได้แก่ เชนลิงค์(Chainlink), อวาแลนช์(Avalanche), ออนโดไฟแนนซ์(Ondo Finance) และ อัลโกแรนด์(Algorand)
แม้อีเธอเรียม(ETH) จะเคลื่อนไหวค่อนข้างนิ่งเมื่อเทียบกับบิตคอยน์ แต่ราคาก็สามารถขยับขึ้นมาแตะ 3,050 ดอลลาร์ (ประมาณ 424,500 บาท) ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
วิลลี วู(Willy Woo) นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคชื่อดัง กล่าวว่าตลาดบิตคอยน์กำลังเปลี่ยนโครงสร้างจาก ‘แรงผลักดันจากการปิดสถานะ’ ไปสู่ *แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน* โดยมีนักลงทุนจำนวนมากเริ่มเชื่อมั่นว่าตลาดพร้อมจะไปต่อในระดับที่สูงกว่าเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
ความคิดเห็น 0