บิตคอยน์(BTC) ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยสื่อความหมายมากกว่าการ ‘ทำลายสถิติ’ ทางเทคนิค ล่าสุด แพลตฟอร์มซื้อขายหลักอย่างบิทไฟเน็กซ์วิเคราะห์ว่าการพุ่งขึ้นครั้งนี้ถือเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญที่ทำให้บิตคอยน์ถูกมองใหม่ ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เก็งกำไร แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในพอร์ตการลงทุน
บิตคอยน์แตะระดับ 123,120 ดอลลาร์ (ราว 1.71 ล้านบาท) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นกว่า 65% จากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายน ความเชื่อมั่นในตลาดเริ่มกลับมา โดยมูลเหตุเบื้องหลังของการปรับขึ้นนี้ประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ ความต้องการ ‘กองทุน ETF’ ที่เพิ่มสูงขึ้น การสะสมเหรียญอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนรายย่อย และภาวะไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลกที่ยังคงกดดันอยู่
รายงานจากบิทไฟเน็กซ์ระบุว่า *เม็ดเงินจากกองทุน ETF แบบสปอตในสหรัฐฯ ไหลเข้าสู่บิตคอยน์อย่างร้อนแรงจนปริมาณการซื้อเกินอุปทานที่เกิดจากการขุดใหม่ในแต่ละช่วง* โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.75 ล้านล้านวอน) ไหลเข้าผ่านกองทุนเหล่านี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าจำนวนบิตคอยน์ที่ถูกขุดขึ้นมาในช่วงเดียวกันชัดเจน ที่น่าสนใจคือ IBIT ETF ของแบล็คร็อก(BlackRock) มีขนาดการจัดการสินทรัพย์ทะลุ 80,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว และกำลังเติบโตเร็วกว่า ETF ใด ๆ ในประวัติศาสตร์
พร้อมกันนี้ นักลงทุนรายย่อยที่ถือครองบิตคอยน์น้อยกว่า 100 BTC ก็เริ่มเร่งการสะสมมากขึ้น โดยมี *‘ความต้องการจากฐานราก’ ที่มากกว่าอัตราการผลิตใหม่* ซึ่งเป็นอีกสัญญาณชี้ถึงภาวะ ‘ขาดแคลนอุปทาน’ ที่รุนแรงขึ้น ทำให้แรงกดดันด้านราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
จากการทำสถิติใหม่ของบิตคอยน์ในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าฐานะของคริปโทเบอร์หนึ่งกำลังเปลี่ยนไปในตลาดการเงิน โดยเฉพาะเมื่อ ‘นักลงทุนสถาบัน’ และ ‘หน่วยงานรัฐ’ เริ่มเข้ามามีบทบาท *ชัดเจนขึ้นในการใช้บิตคอยน์ในแผนจัดสรรความเสี่ยงและการลงทุน*
ประเด็นทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็มีอิทธิพลต่อภาวะตลาดในครั้งนี้เช่นกัน รายงานของบิทไฟเน็กซ์ชี้ว่า ตัวเลขการขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานรายได้น้อย ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนถูกกดดันจาก ‘เงินเฟ้อ’ และ ‘ดอกเบี้ยสูง’ ผู้ประกอบการรายย่อยในหลายเขตเศรษฐกิจเริ่มประสบภาวะรายได้ตกต่ำและขาดแคลนแรงงาน ยิ่งตอกย้ำความเปราะบางของเศรษฐกิจพื้นฐาน
ด้วยเหตุนี้ *การที่บิตคอยน์ยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤต* ยิ่งเน้นให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นแค่สินทรัพย์ทางการเงินทั่วไป แต่กลายเป็น *ช่องทางป้องกันความเสี่ยงในยุคแห่งความไม่แน่นอน* แล้วอย่างเป็นรูปธรรม ความหมายที่อยู่เบื้องหลัง ‘ราคาที่ทำจุดสูงสุดใหม่’ ในครั้งนี้จึงส่งสารอย่างชัดเจนไปยังผู้เล่นในตลาด ว่าคุณค่าทางกลยุทธ์ของบิตคอยน์กำลังยกระดับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0