กองทุนเฮดจ์ฟันด์แนวคริปโตชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง 210k แคปปิตอล(210k Capital) ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ด้วยการทำ ‘ผลตอบแทน 640%’ ภายในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นกรณีศึกษาเด่นที่ชี้ให้เห็นว่า ‘นโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโต’ สามารถนำไปสู่โอกาสสร้างกำไรมหาศาลได้ โดยกองทุนแห่งนี้ยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีทรัมป์มีท่าทีสนับสนุนคริปโตอีกด้วย
ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ระบุว่า 210k แคปปิตอลทำ ‘ผลตอบแทนสุทธิ 640%’ ระหว่างเดือนมิถุนายน 2023 ถึงเดือนมิถุนายน 2024 โดยรายได้หลักมาจากการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่ถือครองบิตคอยน์(BTC) ส่งผลให้เมื่อราคาบิตคอยน์ปรับตัวสูงขึ้น ก็ผลักดันให้พอร์ตการลงทุนของกองทุนเติบโตตามไปด้วยแบบก้าวกระโดด
แม้กองทุนจะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินโดยตรง เนื่องจากยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ Bloomberg อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่า 210k แคปปิตอลมีพอร์ตที่กระจายลงทุนในบริษัทที่ถือบิตคอยน์ในหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และสวีเดน
กองทุนนี้ดำเนินงานภายใต้การดูแลของบริษัทลูกของยูทีเอ็กซ์โอ แมเนจเมนต์ (UTXO Management) โดยเน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์อย่างเข้มข้น รายชื่อของบริษัทที่อยู่ในพอร์ตลงทุนของกองทุน ได้แก่ ไมโครสเตรทิจี(MSTR), เมตาแพลนเน็ต(3350), มูน อิงค์(1723), สมาร์ทเตอร์เว็บ(SWC), เดอะบล็อกเชนกรุ๊ป(ALTBG), ลิควิด เทคโนโลยีส์(LQWD), H100(H100), มาทาดอร์(MATA) และ DV8(DV8)
ไทเลอร์ อีแวนส์(Tyler Evans) หุ้นส่วนผู้บริหารร่วมของกองทุนให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าขณะนี้ทีมงานอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุนใหม่อย่างน้อย 30 รายการในบริษัทที่มีพื้นฐานรองรับระบบบิตคอยน์ ซึ่งเจ้าตัวเรียกบริษัทเหล่านี้ว่า “หุ้นตัวแทนของบิตคอยน์ (Bitcoin Proxy)” พร้อมย้ำว่าในสถานการณ์ที่มูลค่าของเงินกระดาษยังคงลดลงต่อเนื่อง การใช้กลยุทธ์ที่เน้นบิตคอยน์เป็นศูนย์กลางจึงอาจเป็น “ทางเลือกที่มีความหมาย”
ในอีกด้านหนึ่ง เดวิด เบลีย์(David Bailey) ผู้ก่อตั้ง 210k แคปปิตอล ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นบุคคลที่มี ‘อิทธิพลโดยตรง’ ต่อการขยับจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ให้เปิดกว้างต่อคริปโตมากขึ้น ทรัมป์ได้แสดงท่าทีสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนในหลายโอกาสระหว่างการหาเสียง ส่งผลให้ตลาดเกิดความคาดหวังต่อ *แนวทางนโยบายใหม่*
“ความคิดเห็น” ยิ่งบทบาทของคริปโตถูกผูกเข้ากับปรากฏการณ์ทางการเมืองมากเท่าไร โอกาสที่นโยบายของรัฐบาลจะกลายเป็นแรงหนุนหลักต่อวงการคริปโตก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้พัฒนาการในสหรัฐฯ อาจกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญในระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคตอันใกล้.
ความคิดเห็น 0