สองพี่น้องที่เคยศึกษาด้านคณิตศาสตร์จากสถาบัน MIT ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกศาลปฏิเสธคำขอยกฟ้องคดีอาชญากรรมทางคริปโตมูลค่ากว่า *347.5 ล้านบาท (2,500 ล้านดอลลาร์)* ซึ่งเกิดขึ้นบนบล็อกเชนอีเธอเรียม(ETH)
เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) เจสสิกา คลาร์ก(Jessica Clarke) ผู้พิพากษาศาลแขวงแมนฮัตตันใต้ของนิวยอร์ก มีคำตัดสินไม่รับคำร้องขอยกฟ้องของสองพี่น้อง แอนตอน และ เจมส์ เฟอร์เรียร์-บูเอนโน โดยระบุว่าข้อกล่าวหาที่อัยการตั้งขึ้น *มีมูลเพียงพอตามเกณฑ์ของกฎหมายว่าด้วยการฉ้อโกง*
คดีนี้ถูกตั้งขึ้นโดยรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยกล่าวหาว่าทั้งสองได้ *ใช้ช่องโหว่ของระบบอีเธอเรียม(ETH) เพื่อขโมยคริปโตเคอร์เรนซีผ่านกลไกที่เปิดเผยให้เห็นโครงสร้างธุรกรรมก่อนยืนยันในบล็อกเชน* ซึ่งส่งผลให้สามารถแทรกแซงธุรกรรมและขโมยสินทรัพย์ของผู้ใช้งานได้ภายในเวลาเพียง 12 วินาที
อัยการระบุเพิ่มเติมว่า สองพี่น้องใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในการจัดการและหลอกลวงระบบ ‘*MEV(Maximal Extractable Value) บอต*’ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์อัตโนมัติที่เข้ามาแทรกแซงและจัดเรียงลำดับธุรกรรมเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดผ่านค่าส่งธุรกรรม อัลกอริธึมที่สองพี่น้องพัฒนาขึ้นสามารถล่อบอตให้เข้าสู่กับดัก แล้วแทรกแซงขั้นตอนยืนยันบล็อกจน *ระบบทำงานผิดปกติ*
ความคิดเห็นของผู้พิพากษาคลาร์กระบุว่า *แม้รูปแบบการฉ้อโกงนี้จะเป็นวิธีใหม่ แต่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการฉ้อโกงผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม ยังสามารถตราหน้าว่าเป็นความผิดอาญาได้* นั่นหมายความว่าสหรัฐฯ พร้อมตอบโต้เทคนิคทางดิจิทัลที่ก้าวล้ำโดยไม่จำเป็นต้องรอกฎหมายใหม่
เหตุการณ์นี้นับเป็นตัวอย่างสำคัญของการโจมตี MEV และกลยุทธ์การขโมยคริปโตผ่านอัลกอริธึมอย่างซับซ้อน อาจกลายเป็นกรณีอ้างอิงสำหรับการพิจารณาคดีในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของบล็อกเชนและความเสี่ยงในระบบแอปพลิเคชันอัตโนมัติ
ความคิดเห็น 0