ซีอีโอของโซลานาแล็บส์(Solana Labs) อนาโตลี ยาโคเวนโก(Anatoly Yakovenko) ได้จุดชนวนความขัดแย้งในอุตสาหกรรมคริปโตหลังจากเขานิยาม ‘มีมคอยน์’ และ NFT ว่าเป็นเพียง “ขยะดิจิทัล (digital slop)” คำพูดนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดการโต้เถียงแบบเปิดกับ เจสซี พอลแล็ก(Jesse Pollak) ผู้สร้างเครือข่ายเลเยอร์ 2 Base บนบล็อกเชนอีเธอเรียม(ETH)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) โดยยาโคเวนโกระบุว่าเขามองว่า *มีมคอยน์และ NFT ไม่ได้ต่างอะไรจากกล่องสุ่มในเกมมือถือฟรี* ส่วนพอลแล็กสวนกลับว่าความสำคัญของ NFT อยู่ที่คุณค่าทางวัฒนธรรมและศิลปะ และสามารถเป็นเนื้อหาที่มีคุณค่าในตัวมันเอง
ความคิดเห็นจากผู้ใช้งานโซเชียลก็ไม่ช้าก็ตามมา หนึ่งในผู้ใช้งานกล่าวว่า “หากไม่มีมีมคอยน์ แล้วใครจะใช้งานโซลานา?” เป็นการพาดพิงตรงต่อมุมมองของยาโคเวนโก ในขณะที่บางคนวิจารณ์ว่าเขากำลังดูแคลนปัจจัยที่ทำให้โซลานากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มุมมองที่หลากหลายก็มีอยู่เช่นกัน โดยผู้ร่วมก่อตั้ง NFT คอลเลกชัน Space Riders แสดงความคิดเห็นว่า “แม้เขาจะไม่ผิดทั้งหมด แต่ถ้าคนชอบขยะดิจิทัล พวกเขาก็ยังจะซื้อต่อไปอยู่ดี” ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นจริงที่ซับซ้อนของตลาด
แม้จะถูกโจมตีอย่างหนัก แต่ก็มีข้อจริงที่ประจันหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ มีมคอยน์และ NFT กลายเป็นองค์ประกอบหลักที่ผลักดันการเติบโตของระบบนิเวศของโซลานา **รายงานล่าสุดจากบริษัทบล็อกเชนอินฟราสตรักเจอร์ ซินดิกา(Syndica) ระบุว่า ณ เดือนมิถุนายน 2025 DApp ที่เกี่ยวข้องกับมีมคอยน์ คิดเป็นกว่า 62% ของรายได้รายเดือนทั้งหมดบนเครือข่ายโซลานา** โดยส่วนแบ่งรายได้หลักเกิดจากแอปพลิเคชันชื่อ *Pump.fun* ซึ่งเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มสำหรับสร้างมีมคอยน์ง่ายๆ และพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแบบแชร์รายได้ ที่ครองตำแหน่ง DApp รายได้สูงสุดของโซลานาต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
Pump.fun ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นเครื่องมือสำหรับมีมคอยน์เท่านั้น แต่ยังตั้งเป้าจะแข่งขันกับแพลตฟอร์มโซเชียลยักษ์ใหญ่อย่าง ติกตอก(TikTok) และ ทวิตช์(Twitch) โดยผสมผสานระหว่างคอนเทนต์สั้นที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ เข้ากับระบบรางวัลเป็นโทเคน เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมดิจิทัลในยุคถัดไป
สุดท้ายแล้ว คำพูดของยาโคเวนโกกลายเป็นภาพสะท้อนของธรรมชาติที่ซับซ้อนในโลกคริปโตที่ยังคงหาข้อยุติไม่ได้ ระหว่างสิ่งที่ถือเป็น *ขยะดิจิทัล* หรือจะถูกยกย่องว่าเป็น *รูปแบบใหม่ของวัฒนธรรมสมัยนิยม* ยังคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตลาดเป็นสำคัญ
ความคิดเห็น 0