เครือข่ายของโมเนโร(XMR) ตกเป็นเป้าการโจมตีแบบ 51% โดยเชื่อว่ามีการพยายามเข้าควบคุมเครือข่ายจากกลุ่มขุดเหมืองรายหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้กำลังเผชิญกับการโจมตีประเภท ‘ดีดอส(DDoS)’ ส่งผลให้พลังประมวลผลของฝั่งผู้โจมตีลดลงอย่างมาก และทำให้ความพยายามในการครอบงำเครือข่ายประสบปัญหา
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) โมเนโร อัคเซปท์(Monero Accept) ทวีตเปิดเผยว่า เซอร์เกย์ อีวานเชกลอ(Sergey Ivancheglo) ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีและผู้ดูแลกลุ่มขุด ‘คิวบิค(Qubic)’ ยืนยันว่ากำลังถูก DDoS เล่นงาน จากเดิมที่ฝั่งของเขามีพลังขุดอยู่ที่ 2.6 กิกาแฮชต่อวินาที ปัจจุบันตกลงมาเหลือเพียง 0.8 กิกาแฮชต่อวินาทีเท่านั้น การลดลงของ ‘แฮชเรต’ นี้ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดประสิทธิภาพของการโจมตี และเป็นช่องทางให้เครือข่ายสามารถตั้งรับได้ดีขึ้น
เมื่อผู้ใช้งานรายหนึ่งสอบถามว่า การโจมตี DDoS เป็นวิธีป้องกันที่ยั่งยืนหรือไม่ และต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากเพียงใด อีวานเชกลอตอบว่า ฝั่งผู้โจมตีมี ‘เครือข่ายมัลแวร์บนคอมพิวเตอร์เพื่อขุดโมเนโร’ อยู่แล้ว เขาย้ำว่า “หากมี ‘บอตเน็ต’ ที่สามารถขุดโมเนโรได้ ก็สามารถทำการโจมตีแบบไม่มีต้นทุนใดๆ” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าพวกเขาสามารถยื้อสถานการณ์นี้ได้ไม่จำกัดเวลา และเรากำลังวางแผนรับมือให้เหมาะสมนับจากนี้”
สำหรับดีดอส(DDoS) หรือ Distributed Denial-of-Service เป็นการโจมตีโดยใช้คอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ยิงปริมาณทราฟิกจำนวนมากเข้าใส่เป้าหมายจนไม่สามารถให้บริการได้ โดยมักใช้ ‘บอตเน็ต’ หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์ ซึ่งกรณีนี้ก็มีแนวโน้มว่าใช้วิธีลักษณะเดียวกัน
เหตุการณ์ครั้งนี้ยังจุดกระแสในวงการคริปโตเกี่ยวกับ ‘ความสมดุลระหว่างการกระจายศูนย์และความปลอดภัยของบล็อกเชน’ โดยเฉพาะเมื่อมีความเกี่ยวข้องกับโมเนโร ซึ่งเป็นเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัวอย่างเข้มงวด จึงมีแนวโน้มว่าชุมชนผู้ใช้งานและนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย จะร่วมถกเถียงและเสนอแนวทางการป้องกันในอนาคตอย่างคึกคัก
ความคิดเห็น 0