รัฐบาลจีนเดินหน้ายกระดับการควบคุมตลาดคริปโต ด้วยการห้ามจัดงานวิจัยและสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับ *สเตเบิลคอยน์* ภายในประเทศอย่างเป็นทางการ การประกาศครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของหน่วยงานทางการเงินจีนที่ต้องการควบคุม *ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล* อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) Bloomberg รายงานว่า หน่วยงานการเงินของจีนได้ส่งคำสั่งไปยังบริษัทหลักทรัพย์และองค์กรสำคัญในประเทศ ให้ ‘ยุติ’ การประชาสัมพันธ์ งานวิจัย และกิจกรรมอบรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ *สเตเบิลคอยน์* โดยทันที รายงานอ้างอิงจากบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า ทางการจีน loมีความวิตกว่าสินทรัพย์ประเภทนี้อาจถูกใช้เป็น *เครื่องมือฉ้อโกงทางการเงินรูปแบบใหม่* ได้
คริสโตเฟอร์ หว่อง (Christopher Wong) นักกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารชาวจีนโพ้นทะเลในสิงคโปร์ มองว่าทางการจีนกำลังกังวลกับ *พฤติกรรมตามกระแส* ของนักลงทุนรายย่อย ที่อาจเข้าสู่ตลาดโดยไม่เข้าใจความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ ความเคลื่อนไหวนี้จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามควบคุมความร้อนแรงในตลาด *ก่อนเกิดฟองสบู่* โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสคริปโตกำลังกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางระดับความรู้ทางการเงินของประชาชนทั่วไปที่ยังค่อนข้างต่ำ
มาตรการล่าสุดนี้ยังสะท้อนถึงท่าทีของจีนที่ต้องการ *ควบคุมระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรอบด้าน* ก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งการให้ธนาคารต่างๆ เพิ่มการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต พร้อมเดินหน้าปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน การพนันออนไลน์ และระบบการเงินใต้ดิน
ในทางตรงกันข้าม *ฮ่องกง* ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษ กลับดำเนินนโยบายเปิดกว้างต่อ *สเตเบิลคอยน์* โดยเพิ่งประกาศแผนการใช้ *แนวทางกำกับการออกสเตเบิลคอยน์* อย่างเป็นทางการ พร้อมระยะเวลาเตรียมตัว 6 เดือน เพื่อดึงดูดการทดสอบนโยบายและเทคโนโลยี ทำให้บางฝ่ายมองว่า ฮ่องกงอาจกลายเป็นพื้นที่ *ทดลองเชิงยุทธศาสตร์* ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับรัฐบาลกลางจีน
ความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นต่อ *สินทรัพย์เสถียรค่า* อาจไม่ใช่เพียงการควบคุมตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นแผนระยะยาวของจีนในการ *วางรากฐานสำหรับเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง* (CBDC) ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของรัฐบาลในการสร้างระบบการเงินยุคใหม่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐอย่างสมบูรณ์ ความเห็นโดยรวมในอุตสาหกรรมเห็นตรงกันว่า *การตรวจสอบสเตเบิลคอยน์เข้มข้นขึ้น* อาจเป็นขั้นตอนสำคัญสู่การผลักดันหยวนดิจิทัลในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0