Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยกระดับลงทุนบิตคอยน์(BTC) ผ่าน ETF ชัดเจน ถือครองเกินทองคำ

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยกระดับลงทุนบิตคอยน์(BTC) ผ่าน ETF ชัดเจน ถือครองเกินทองคำ / Tokenpost

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในบิตคอยน์(BTC)มากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยจากข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เมื่อวันที่ 24 พบว่า ฮาร์วาร์ด เมเนจเมนต์ คอมพานี(HMC) ได้ถือครองหน่วยลงทุนในกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต ‘iShares Bitcoin Trust (IBIT)’ ของแบล็คร็อค มูลค่า 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,622 พันล้านวอน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 8% ของพอร์ตโฟลิโอหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐของ HMC

การที่ชื่อของ *บิตคอยน์* ปรากฏเคียงข้างกับหุ้นเทคโนโลยีระดับบลูชิพในพอร์ตของฮาร์วาร์ด นับเป็นพัฒนาการที่น่าจับตา บ่งชี้ว่าบรรษัทการเงินชั้นนำเริ่มมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถมีที่ยืนในแผนการจัดพอร์ตได้อย่างจริงจัง โดยในรายงานเดียวกันยังพบว่า HMC ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง อาทิ ไมโครซอฟท์(MSFT) มูลค่าราว 3.1 พันล้านดอลลาร์, อเมซอน(AMZN) ราว 2.35 พันล้านดอลลาร์, เมตา(META) ประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และเอ็นวีเดีย(NVDA) ราว 1.04 พันล้านดอลลาร์

จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ HMC ถือครองบิตคอยน์มากกว่าทองคำ โดย ณ ช่วงเวลาเดียวกัน การถือครองในกองทุน SPDR Gold Trust มีมูลค่าราว 1.02 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่าบิตคอยน์อย่างชัดเจน ความต่างนี้สะท้อนถึงการยกระดับ *บิตคอยน์* จากเดิมที่เป็นเพียงสินทรัพย์เก็งกำไรขอบตลาด มาเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทดแทนหรือกระทั่งเหนือกว่าความปลอดภัยแบบดั้งเดิมอย่างทองคำ ความคิดเห็น: นี่อาจเป็นสัญญาณว่า *สินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเข้าสู่แกนกลางของแผนลงทุนอย่างเป็นระบบ*

ฮาร์วาร์ดเริ่มแสดงความสนใจในภาคคริปโตมานานแล้ว โดยในปี 2018 HMC ได้ลงทุนในกองทุนร่วมลงทุนที่เน้นคริปโตโดยเฉพาะ และในปี 2019 ก็มีการเข้าซื้อโทเคนจากโปรเจกต์สแต็กซ์(STX) ผ่านการขายโทเคนอย่างเป็นทางการตามเอกสารของ SEC ขณะที่ในปี 2021 ก็มีรายงานว่าฮาร์วาร์ดได้เข้าซื้อคริปโตโดยตรงผ่านบัญชีในแพลตฟอร์มซื้อขาย

การลงทุนใน IBIT ครั้งนี้จึงอาจถือเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า ฮาร์วาร์ดได้ยกระดับการมีส่วนร่วมในคริปโตเคอร์เรนซีจากเดิมที่เป็นการลงทุนทางอ้อม มาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การจัดสินทรัพย์หลัก เป็นอีกหนึ่งข้อบ่งชี้ว่า *ทุนสถาบันกำลังนิยามบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์การเงินอย่างชัดเจน*

อย่างไรก็ตาม รายงาน 13F ที่เผยแพร่โดย SEC นั้นแสดงเฉพาะข้อมูลการถือครองหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐเท่านั้น จึงยังไม่ได้สะท้อนพอร์ตทั้งหมดของ HMC แต่การที่ *บิตคอยน์* ปรากฏอยู่ในลำดับต้นๆ ของพอร์ตในรายงานฉบับนี้ก็เพียงพอที่จะตอกย้ำว่าฮาร์วาร์ดไม่ได้มองคริปโตแค่ในฐานะกระแส แต่กำลังพัฒนาเป็นยุทธศาสตร์การลงทุนที่เป็นจริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1