พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network) และสกุลเงินดิจิทัลของโครงการอย่าง พายคอยน์(PI) กำลังเป็นที่จับตามองของชุมชนอีกครั้ง หลังจากราคาของพายคอยน์พุ่งขึ้นกว่า *13%* ภายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา ราคาพายคอยน์ทะยานผ่านระดับ 0.46 ดอลลาร์ (ราว 640 บาท) ก่อนจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ราว 0.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 560 บาท) ในช่วงเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ถึง *86%*
ปัจจุบันนักลงทุนมีมุมมองแตกต่างกันเกี่ยวกับ *ทิศทางราคา* ของ PI ในอนาคต โดยผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม X รายหนึ่งนามว่า ฟรีดริช (Friedrich) แสดงความมั่นใจว่าราคาอยู่ในช่วงของ “การฟื้นตัว” พร้อมเข้าถือ *สถานะ Long* แต่ในทางตรงกันข้าม นักวิเคราะห์อีกคนภายใต้ชื่อ ‘pinetworkmembers’ ได้เตือนว่า “การทะลุระดับ 1 ดอลลาร์อาจเป็นเรื่องยาก” พร้อมแนะนำให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ Piscan ยังเผยด้วยว่า ปัจจุบันปริมาณพายคอยน์ที่ถูกเก็บไว้บน *ตลาดซื้อขายแบบศูนย์กลาง(CEX)* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีมากถึง *407 ล้าน PI* ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ *194 ล้าน PI* ถูกเก็บไว้ที่ Gate.io ซึ่งมากที่สุดในบรรดาแพลตฟอร์มทั้งหมด ความเคลื่อนไหวนี้อาจสะท้อนถึง *แรงขายระยะสั้น* ที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาด
นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันที่กำลังใกล้เข้ามาคือ *เหตุการณ์ปลดล็อกโทเคน(Token Unlock)* ซึ่งอาจสร้างแรงเทขายเพิ่มเติม โดยภายใน 30 วันต่อจากนี้ คาดว่าจะมี *อย่างน้อย 170 ล้าน PI* ทะยานเข้าสู่ระบบการซื้อขาย โดยเฉพาะในวันที่ 16 เพียงวันเดียวจะมีมากถึง *9.8 ล้าน PI* ที่ถูกปลดล็อก ความเสี่ยงจาก 'สภาพคล่องที่รอการปล่อย' นี้ อาจส่งผลต่อเสถียรภาพด้านราคาเป็นอย่างมาก
ในอีกมุมหนึ่งทางพายเน็ตเวิร์กยังคงเดินหน้าขยายการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทระบบชำระเงิน เทรนส์ไฟ(TransFi) ประกาศรองรับการซื้อ PI ด้วย *สกุลเงินท้องถิ่นผ่าน Pi Wallet* และแพลตฟอร์มออนแรมป์อย่าง Onramper หลังจากได้รับการรับรองผ่านขั้นตอน KYB อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ผู้ใช้ในประเทศต่างๆ จะสามารถซื้อ PI ได้โดยตรงผ่านวิธีการชำระเงินภายในประเทศ ถือเป็นการเพิ่ม ‘*ความเข้าถึง*’ ให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก
อีกหนึ่งพัฒนาการคือการขยายเวลา *ประมูลชื่อโดเมน .pi* ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งชื่อแอปและวอลเล็ตภายใน Pi Network ได้ตามใจชอบในลักษณะเดียวกับ .eth ของเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) หรือ .bnb ของไบแนนซ์(BNB) นับว่าส่งเสริมประสบการณ์ที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางในระบบนิเวศน์บล็อกเชน
ท้ายที่สุด *ราคาของพายคอยน์* ยังคงอยู่ระหว่างทางแยก ทั้งจากข่าวดีระยะสั้นและแรงขายโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังใกล้เข้ามา แม้มีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค แต่ *ความคิดเห็น* จากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า นักลงทุนควรจับตาปริมาณโทเคนที่ปลดล็อกและปริมาณในตลาด CEX อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ ‘แรงกดดันที่มองไม่เห็น’ ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อแนวโน้มของราคามากกว่าที่คาดคิด.
ความคิดเห็น 0