คดีความยืดเยื้อระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) กับบริษัทริปเปิล(Ripple) ได้จบลงอย่างเป็นทางการ หลังต่อสู้กันในชั้นศาลมานานกว่า 4 ปี โดยล่าสุด พอล แอตกินส์(Paul Atkins) กรรมการ SEC ได้ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราจะย้ายการถกเถียงเรื่องอนาคตของคริปโตจากศาลมาสู่โต๊ะนโยบาย” เป็นการยืนยันว่าคดีนี้ได้สิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์
ต้นตอของคดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ในช่วงปลายวาระของ เจย์ เคลย์ตัน(Jay Clayton) ประธาน SEC ขณะนั้น โดย SEC ได้ฟ้องร้องบริษัทริปเปิล พร้อมกับผู้บริหารระดับสูงอย่าง แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ซีอีโอ และ คริส ลาร์เซน(Chris Larsen) ประธานบอร์ด ฐานจำหน่ายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอ้างว่าเหรียญเอ็กซ์อาร์พี(XRP) เป็น ‘หลักทรัพย์’ ไม่ใช่ ‘สินทรัพย์’ ซึ่งทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากอุตสาหกรรมคริปโต และผู้คนคาดหวังว่า ท่าทีจะเปลี่ยนไปเมื่อนายแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ขึ้นมาเป็นประธาน SEC แต่แทนที่จะผ่อนคลาย กลับกลายเป็นว่า กรรมการชุดใหม่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางกฎหมายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 อนาลิซา ตอร์เรส(Analisa Torres) ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐมีคำตัดสินว่า การซื้อขาย XRP ในตลาดรองไม่ถือเป็นธุรกรรมของหลักทรัพย์ตามกฎหมาย ทำให้คำพิพากษาเอนเอียงเข้าข้างฝั่งริปเปิล อย่างไรก็ตาม ในคำพิพากษาสุดท้าย ศาลได้สั่งปรับบริษัทเป็นเงิน 125 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,738 ล้านบาท) พร้อมกับสั่งห้ามขาย XRP ให้กับสถาบันการเงินอย่างถาวร
แม้ดูเหมือนกระบวนการจะสิ้นสุดลง แต่เมื่อเดือนตุลาคม 2024 SEC ภายใต้การนำของเกนส์เลอร์ ได้ยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง ขณะที่ฝั่งริปเปิลก็ตอบโต้ด้วยการอุทธรณ์เช่นกัน ส่งผลให้บรรยากาศกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2025 หลังจากที่เกนส์เลอร์ลาออกจากตำแหน่ง ผู้นำชุดใหม่ของ SEC ได้เปิดโต๊ะเจรจากับริปเปิลจนสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ฝ่ายริปเปิลยอมถอนอุทธรณ์ และ SEC ก็ถอนคำอุทธรณ์เช่นกัน ทำให้คดีนี้ยุติลงโดยสมบูรณ์ในด้านกฎหมาย
กรรมการ SEC อย่าง เฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) ก็ได้โพสต์แสดงความเห็นว่า “ตอนนี้ถึงเวลาที่ควรให้ความสำคัญกับการสร้างความชัดเจนในการกำกับดูแลแล้ว” ซึ่งเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของการจัดระเบียบกรอบนโยบายสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
การปิดฉากคดีในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงจุดจบของข้อพิพาทระหว่างสองฝ่าย แต่ยังสร้าง ‘ความเป็นไปได้’ ในการเปลี่ยนทิศทางของนโยบายกำกับดูแลคริปโตของสหรัฐฯ โดยแม้จะยังไม่แน่ชัดว่า SEC จะปรับจุดยืนตามแนวทางที่ผ่อนคลายลงหรือไม่ แต่กรณีของริปเปิลถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนว่า ระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ
ความคิดเห็น 0