ราคาของ *พายคอยน์(PI)* ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลหลักของ *เครือข่ายพาย(Pi Network)* ปรับตัวลดลง 7% มาอยู่ที่ระดับ 0.38 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 530 บาท) เมื่อวันที่ 12 ท่ามกลางแนวโน้มขาลง แต่ก็ยังสามารถปิดสัปดาห์ในแดนบวกเล็กน้อยได้ ทำให้นักลงทุนยังจับตามองแนวต้านสำคัญที่ *0.78 ดอลลาร์* (ประมาณ 1,080 บาท) ว่าจะสามารถฝ่าไปได้หรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันภาวะอุปสงค์อุปทานรวมถึงตัวชี้วัดทางเทคนิคบ่งชี้ว่า **มีโอกาสการรีบาวด์ในระยะสั้น** แต่ยังขาดแรงขับเคลื่อนที่จำเป็นต่อการกลับตัวระยะกลางถึงยาว
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายของ *พายคอยน์* อยู่ที่ราว 115.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 15,990 ล้านบาทไทย) ขณะที่มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ระดับ 2.96 พันล้านดอลลาร์ (ราว 41,144 ล้านบาท) โดยจากอุปทานทั้งหมดประมาณ 1.203 พันล้านเหรียญ มีการหมุนเวียนอยู่ในตลาดจำนวน 782 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือยังถูกล็อกไว้อยู่
ในเชิงเทคนิคจากกราฟ 4 ชั่วโมง ราคาของ PI ยังคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ หลังจากการปรับตัวลดลง ไม่สามารถฟื้นผ่านเส้นเทรนด์ขาลงได้ ขณะที่ *MACD* ยังแกว่งอยู่ใกล้ระดับศูนย์ บ่งชี้ถึงแรงขับเคลื่อนที่ยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม *Stochastic RSI* กำลังอยู่ใกล้โซน Oversold จึงอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาในระยะสั้น โดยมีการวิเคราะห์ว่า **หาก PI สามารถทะลุระดับ 0.78 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง นั่นอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการกลับตัวในเทรนด์ระยะกลาง**
ส่วนด้านกิจกรรมบนเครือข่ายก็น่าจับตาเช่นกัน ตามข้อมูลจาก piscan.io พบว่ามีเหรียญ PI ราว 409.4 ล้านเหรียญถูกเก็บไว้กับกระดานแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ โดยเฉพาะ *OKX* ถือล็อคไว้ราว 29.55 ล้านเหรียญ และ *Bitget* ถือประมาณ 139.9 ล้านเหรียญ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของอุปทานอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถซื้อขายได้ในระบบ ทำให้สภาพคล่องจำกัด สำหรับธุรกรรมในเครือข่ายสามารถประมวลผลได้ประมาณ 0.714 รายการต่อวินาที ขณะที่จำนวนบล็อกที่สร้างแล้วทะลุ 22.16 ล้านบล็อก
ในมุมของระบบนิเวศ มีความเคลื่อนไหวเชิงบวกที่น่าสนใจสองประการ อย่างแรกคือการที่ *Chainphon* ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนประกาศจะลิสต์พายคอยน์เข้าสู่แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApp) ในวันที่ 12 สิงหาคม โดยจะเปิดคู่เทรด *PHONE/PI* ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า (UTC) พร้อมจัดกิจกรรมแจกเหรียญ 100 PI สำหรับผู้เข้าร่วมตอบคำถามช่วงเปิดตัว อีกด้านหนึ่งคือ *การประมูลโดเมน .pi* ที่ทำให้ผู้ใช้งานสร้างชื่อกระเป๋าในลักษณะเดียวกับ .eth ของ Ethereum ได้อย่างง่ายดาย โดยล่าสุดได้ขยายเวลาการเปิดประมูลถึงสิ้นเดือนกันยายน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ลื่นไหลมากขึ้น
แม้ว่าการขยายการลิสต์และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างโดเมนจะเพิ่มความเป็นไปได้ในการใช้งานจริงของ *เครือข่ายพาย* แต่การฟื้นความเชื่อมั่นในราคากลับยังคงต้องรอ “ตัวกระตุ้น” ที่ชัดเจน เช่น การเกิดกรณีใช้งานที่จับต้องได้ (*real use cases*) หรือกระแสการซื้อกลับครั้งใหญ่ ดังนั้น *การทะลุแนวต้าน 0.78 ดอลลาร์* จึงอาจเป็นจุดชี้ขาดแนวโน้มราคาระยะกลางของ *พายคอยน์* ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0