ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) กำลังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในตลาดบล็อกเชน ด้วยรายได้จากค่าธรรมเนียมเครือข่ายตลอด 30 วันที่ผ่านมาสูงถึงประมาณ 97.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,359 พันล้านวอน) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า *35%* ของรายได้รวมทั้งหมดจากค่าธรรมเนียมในอุตสาหกรรม บดขยี้เครือข่ายหลักอย่างบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) อย่างชัดเจน
จากรายงานของ CryptoRank ระบุว่า ไฮเปอร์ลิควิดมีส่วนแบ่งในค่าธรรมเนียมทั้งหมดมากกว่าหนึ่งในสาม โดยอันดับสองคือทรอน(TRX) ซึ่งมีรายได้ประมาณ 58.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 818 พันล้านวอน), ถัดมาเป็นอีเธอเรียม 45 ล้านดอลลาร์ (ราว 626 พันล้านวอน), โซลานา 41.1 ล้านดอลลาร์ (ราว 572 พันล้านวอน), บิตคอยน์ 16.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 227 พันล้านวอน) และ BNB Chain 10.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 147 พันล้านวอน)
ไม่เพียงแค่ค่าธรรมเนียมเท่านั้น ไฮเปอร์ลิควิดยังทำสถิติในไตรมาส 2 ปี 2025 ด้วยปริมาณการซื้อขายรายไตรมาสสูงถึงประมาณ 648,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 902 ล้านล้านวอน) และยอดสะสมตลอดปีที่ผ่านมาทะลุ *1.57 ล้านล้านดอลลาร์* (ราว 2,182 ล้านล้านวอน) โดย CoinMarketCap ชี้ว่า ไฮเปอร์ลิควิดครองส่วนแบ่งตลาด DEX ประเภทสัญญา perp (perpetual contract) มากกว่า *60%* ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอันดับสองถึงราว 10 เท่า
ความสำเร็จของแพลตฟอร์มนี้ ส่วนหนึ่งมาจากกิจกรรมการแจกจ่ายเหรียญ HYPE ช่วงปลายปี 2024 รวมถึงระบบคะแนนผู้ใช้งานที่โปร่งใสและยุติธรรม ปัจจัยอื่นที่ดึงดูดผู้เทรดคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย, API ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว, สภาพคล่องสูง และโอกาสทำกำไรจากการเก็งกำไรแบบเสถียร นอกจากนี้ การสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากนักลงทุนชื่อดังอย่างเจมส์ วินน์(James Wynn) ก็ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มยิ่งขึ้น
ไฮเปอร์ลิควิดยังใช้กลยุทธ์ *ซื้อคืนและเผาเหรียญ HYPE ด้วยส่วนหนึ่งของรายได้จากค่าธรรมเนียม* เพื่อควบคุมจำนวนเหรียญและเสริมเสถียรภาพของตลาด ซึ่งกลายเป็นอีกแรงจูงใจให้ผู้ใช้มั่นใจในโทเคนมากขึ้น
รายงานล่าสุดจากบริษัทรายงานการลงทุนอย่างแวนเอค(VanEck) ระบุว่า ไฮเปอร์ลิควิดกำลัง *ช่วงชิงผู้ใช้คุณภาพสูงจากระบบนิเวศโซลานา* อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านความเร็วในการเทรดและความเหนือชั้นทางเทคโนโลยี ทั้งนี้แวนเอคก็วิจารณ์ว่า โซลานาเองมีช่องโหว่ในตลาดสัญญา perp เพราะไม่ได้พัฒนา UX ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างเพียงพอ
ราคาของโทเคน HYPE ยังสะท้อนความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม โดยเริ่มต้นในวันที่ 6 สิงหาคมที่ราว 39.27 ดอลลาร์ (ประมาณ 54,500 วอน) และปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากวันที่ 8 สิงหาคม โดยพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ราว 46 ดอลลาร์ (ประมาณ 64,000 วอน) เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม เป็นการปรับขึ้นราว 18% จากจุดต่ำสุดประจำสัปดาห์ ปัจจุบันราคายังเคลื่อนไหวในช่วง 42–44 ดอลลาร์ (ราว 58,000–61,000 วอน)
*ความคิดเห็น:* จากข้อมูลล่าสุดนี้ ไฮเปอร์ลิควิดกำลังยกระดับตนเองจาก DEX หน้าใหม่ ไปสู่การเป็นผู้กำหนดทิศทางของตลาด perpetual contract โดยเฉพาะในฝั่งตลาด DeFi โดยทุกสายตากำลังจับตาดูว่า ปริมาณค่าธรรมเนียมและกิจกรรมของผู้ใช้งานจะรักษาโมเมนตัมนี้ได้ต่อเนื่องหรือไม่ในไตรมาสถัดไป
ความคิดเห็น 0