Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์สำรองทางการคลัง หนุนมูลค่าแตะ 72 พันล้านบาท

รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์สำรองทางการคลัง หนุนมูลค่าแตะ 72 พันล้านบาท / Tokenpost

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการคริปโตอีกครั้ง หลังประกาศยอมรับ *บิตคอยน์(BTC)* อย่างเป็นทางการในฐานะ ‘สินทรัพย์สำรองทางการคลัง’ นับเป็นก้าวต่อเนื่องจากแผน ‘การสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์’ ที่ริเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์

ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสตราเตจี แสดงจุดยืนสนับสนุนทันที โดยโพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า “สหรัฐฯ ได้ยอมรับบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์สำรองทางการคลัง” พร้อมแชร์คำกล่าวของรัฐมนตรีคลัง สก็อต เบสเซนต์(Scott Bessent) ซึ่งถือเป็นถ้อยแถลงที่มีนัยสำคัญในโลกคริปโต

เบสเซนต์ระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะใช้ *บิตคอยน์จำนวน 200,000 เหรียญ* ที่ถือครองอยู่ในปัจจุบันมาเริ่มต้นการสำรองอย่างเป็นทางการ หากประเมินตามราคาตลาดปัจจุบันที่ราว *97,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC* มูลค่ารวมของสินทรัพย์นี้จะอยู่ที่ประมาณ *2.7 ล้านล้านวอน* หรือประมาณ *72 พันล้านบาท* เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ มีแผนจะ *ถือครองเพิ่มขึ้นอีกในแบบที่ไม่กระทบงบประมาณของรัฐ* สอดคล้องกับพันธกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้สหรัฐฯ กลายเป็น *มหาอำนาจด้านบิตคอยน์*

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ในรายการของ CNBC ที่เบสเซนต์ระบุว่า *“รัฐบาลไม่มีแผนจะซื้อบิตคอยน์เพิ่ม”* คำพูดล่าสุดของเขาจึงถูกตั้งคำถามว่าอาจขัดแย้งกัน ในประเด็นนี้ อดัม แบ็ก(Adam Back) แกนนำในกลุ่มไซเฟอร์พังก์และผู้พัฒนาแฮชแคช(Hashcash) แสดงความคิดเห็นว่า *ก่อนหน้านั้นอาจเป็นการพูดผิด* หรือเป็นกลยุทธ์ “สร้างความชอบธรรมทางการเมือง” เพื่อนำไปสู่การซื้อบิตคอยน์อย่างเป็นทางการในภายหลัง

“นี่อาจเป็นความพยายามสื่อสารเพื่อเบี่ยงเบนกระแสต่อต้าน เช่น การกล่าวว่าใช้เงินที่ประหยัดได้จากงบส่วนอื่นมาจัดสรรให้บิตคอยน์โดยไม่กระทบภาพรวม” แบ็กกล่าวเสริม

นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ให้เห็นว่า ท่าทีที่ไม่สอดคล้องกันของรัฐบาลอาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะข้างหน้า แต่สิ่งที่ชัดเจนกว่าคือ การประกาศครั้งนี้อาจนับเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญที่ยกระดับสถานะของบิตคอยน์ในระบบการเงินระหว่างประเทศ*

หลายฝ่ายประเมินว่า แม้รัฐบาลจะยังไม่ซื้อเพิ่มในทันที แต่การเปลี่ยนแปลงเชิงจุดยืนของสหรัฐฯ จะส่งผลเชิงบวกระยะยาวต่อทิศทางของตลาด โดยเฉพาะการขยับตัวของธนาคารกลางและนักลงทุนสถาบันในระดับโลก ที่จะ *มองบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์* มากขึ้นกว่าที่เคยเป็น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1