ในปี 2025 ประเทศที่ไม่เก็บภาษีจากคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มได้รับความสนใจในฐานะจุดหมายใหม่ของนักลงทุน ท่ามกลางแนวโน้มการเพิ่มความเข้มงวดของหน่วยงานภาษีทั่วโลก หลายประเทศกลับเลือกใช้นโยบาย *ยกเว้นภาษีทั้งหมด* สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ดึงดูดทั้งนักเทรด, นักลงทุนสายถือยาว ไปจนถึงบริษัทด้านคริปโต
หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือ *หมู่เกาะเคย์แมน* ซึ่งถือเป็น *เขตปลอดภาษีสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล* อย่างแท้จริง เนื่องจากไม่มีการจัดเก็บ *ภาษีรายได้, ภาษีกำไรจากการขาย และภาษีนิติบุคคล* นักเทรดสามารถซื้อขายหรือถือครองบิตคอยน์(BTC)ระยะยาวโดยไม่ต้องรับภาระภาษี แม้แต่การให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดีไฟน์(DeFi)ก็ไม่ถูกเก็บภาษีเช่นกัน
ระบบกำกับดูแลของหมู่เกาะเคย์แมนก็มีความชัดเจนมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 กฎหมาย *ผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือน* (Virtual Asset Service Providers Act) ฉบับแก้ไขจะเริ่มมีผลบังคับใช้ กฎหมายดังกล่าวออกแบบภายใต้มาตรฐานสากล ส่งผลให้ผู้ให้บริการเช่น *กระดานเทรดและบริษัทดูแลสินทรัพย์* สามารถดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกฎหมายที่มั่นคง ซึ่งนับว่าเป็นจุดดึงดูดสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความมั่นคงทางกฎหมาย’
ในแง่เศรษฐกิจ หมู่เกาะเคย์แมนมีเสถียรภาพสูง *สกุลเงินเคย์แมนดอลลาร์* ผูกกับดอลลาร์สหรัฐจึงลดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งระบบกฎหมายอิงตามกฎหมายจารีตประเพณีแบบอังกฤษ (Common Law) ให้ *ความคุ้มครองทางกฎหมาย* แก่ชาวต่างชาติได้อย่างดีเยี่ยม ผนวกกับ *คุณภาพชีวิตระดับหรูและวัฒนธรรมที่เปิดรับชาวต่างชาติ* ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนพร้อมพิจารณาย้ายถิ่นฐานในระยะยาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ *ผู้สนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ยังคงตั้งคำถามซ้ำๆ ว่า “ปี 2025 ประเทศใดคือ *สวรรค์ของคริปโตที่ปลอดภาษี*?” หมู่เกาะเคย์แมนถือว่าเป็นคำตอบที่ตรงจุดที่สุด ในช่วงที่หลายฝ่ายอยู่ระหว่างวางแผนหนีภาษีอย่างจริงจัง ที่นี่จึงกลายเป็น ‘ทางเลือกที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด’ ในสายตาของนักลงทุนคริปโตทั่วโลก
ความคิดเห็น 0