ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 จุด ส่งผลให้ราคา *บิตคอยน์(BTC)* แสดงปฏิกิริยาเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 115,912 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16 ล้านบาท) บนแพลตฟอร์มบิทแสตมป์ (Bitstamp) การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า จึงไม่มีความผันผวนรุนแรงในราคา เนื่องจากการคาดการณ์ถูกสะท้อนเข้าสู่ตลาดก่อนหน้านี้แล้ว
นี่ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 โดยธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ส่วนใหญ่มองเห็นแนวโน้มดังกล่าว ยกเว้นสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและโซซิเอตเต้ เจเนอราลที่มีมุมมองต่างออกไป ด้านตลาดการคาดการณ์อย่างคัลชิ (Kalshi) ประเมินความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเกิน 0.5 จุดไว้เพียง 7% ซึ่งสะท้อนว่าท่าทีของเฟดในครั้งนี้ยังคง ‘อนุรักษ์นิยม’
ขณะเดียวกัน เสียงวิพากษ์จากภาคการเมือง โดยเฉพาะจากพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้เฟดใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่านี้ พร้อมวิจารณ์ว่าเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกำลัง ‘ระมัดระวังเกินไป’ โดยความคาดหวังในตลาดชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
*ความคิดเห็น* มีนักวิเคราะห์บางรายเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับปี 1998 เมื่อเกิดวิกฤต LTCM และเฟดเข้าแทรกแซงด้วยการลดดอกเบี้ยแม้ภาวะตลาดทุนยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่นเดียวกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาทองคำและหุ้นทำสถิติสูงสุด ซึ่งการตัดสินใจของเฟดในลักษณะ ‘เชิงรุก’ ถือว่าหาได้ยาก
ยูเรียน ทิมเมอร์ (Jurrien Timmer) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเชิงมหภาคของฟิเดลิตี้แอสเซทแมเนจเมนต์ (Fidelity) กล่าวถึงความคล้ายคลึงกับยุคของอลัน กรีนสแปน เมื่อเฟดเคยลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในช่วงตลาดกระทิง โดยมองว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการ ‘บริหารความเสี่ยงล่วงหน้า’
กระนั้นก็ตาม ยังมีความกังวลว่าเฟดกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ *กลืนไม่เข้าคายไม่ออก* เมื่อยังต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อที่แข็งแรง ควบคู่กับตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแรงลง ทำให้บางฝ่ายตั้งคำถามว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะเพียงพอสำหรับการรับมือในระยะยาวหรือไม่
ในระยะสั้น *บิตคอยน์* และคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมมีแนวโน้มที่จะผันผวนตามทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด โดยหากสภาพคล่องและความเสี่ยงในตลาดการเงินได้รับการหนุน เราอาจได้เห็นโมเมนตัมเชิงบวกกลับเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0