ริปเปิล(XRP) ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมงาน ‘การประชุมโต๊ะกลม ว่าด้วยนโยบายบล็อกเชนระดับสหรัฐ–สหราชอาณาจักร’ ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิงของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยมีบริษัทในวงการคริปโตชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม เพื่อหารือถึงโอกาสความร่วมมือด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
แคสซี แครดด็อก(Cassie Craddock) ผู้อำนวยการริปเปิลประจำสหราชอาณาจักร ได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมงานในครั้งนี้ และเน้นย้ำถึง ‘ศักยภาพของความร่วมมือระหว่างสองประเทศในแวดวงเทคโนโลยีบล็อกเชน’ โดยภายในงานยังมีบุคคลสำคัญอย่าง ราเชล รีฟส์(Rachel Reeves) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร และ สก็อตต์ เบสเซนต์(Scott Bessent) รัฐมนตรีการคลังของสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมด้วย ทำให้การหารือครั้งนี้ยิ่งมีน้ำหนักทางนโยบายเพิ่มขึ้น แครดด็อกให้ความเห็นว่า “การร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ–สหราชอาณาจักร เป็น *โอกาสครั้งสำคัญ* ที่จะผลักดันศักยภาพทางเศรษฐกิจของบล็อกเชนให้เป็นจริงได้”
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวเชิงบวกของรัฐบาลต่อวงการบล็อกเชนก็มีอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของ Financial Times ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันจัดตั้ง *คณะทำงานเฉพาะกิจด้านกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัล* เพื่อพัฒนาแนวทางนโยบายร่วมกันทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ความร่วมมือเชิงนโยบายในระดับนี้อาจกลายเป็นต้นแบบสำคัญของความร่วมมือระดับนานาชาติในอนาคต
ริปเปิลยังคงขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่องในสหราชอาณาจักร โดยก่อนที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) จะยื่นฟ้องในปี 2020 แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) ซีอีโอของริปเปิลเคยเปิดเผยว่า มีแผนจะย้ายสำนักงานใหญ่จากซานฟรานซิสโกไปยังลอนดอน ปัจจุบัน ริปเปิลมีสำนักงานหลักอยู่ในลอนดอน ซึ่งถือเป็นฐานยุทธศาสตร์สำคัญของตลาดยุโรป และในเดือนตุลาคม 2021 บริษัทก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ *มูลนิธิปอนด์ดิจิทัลแห่งสหราชอาณาจักร(Digital Pound Foundation)* เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเงินดิจิทัลของรัฐ
แครดด็อกยังระบุว่า ริปเปิลสามารถเป็นสะพานเชื่อมสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมระหว่างสองประเทศ “เราวางรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งไว้ทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกแล้ว และจะมีบทบาทสำคัญหากนโยบายเหล่านี้นำไปสู่การดำเนินงานจริง” เขากล่าว
การประชุมในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมทางการทูนธรรมดา แต่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ที่เชื่อมโยงวงการอุตสาหกรรมบล็อกเชนกับกรอบกฎระเบียบของภาครัฐ หากรัฐบาลทั้งสองสามารถยกระดับความสนใจไปสู่ความร่วมมือเชิงนโยบายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็อาจสร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโตทั้งระบบ
ความคิดเห็น 0